เกาะติดข่าวดาราก่อนใคร

กดติดตาม “ทีวีพูล”

banner

 นางสาวิตรี วงศ์ศรีชา แม่ของน้องชมพู่ ให้ข้อมูลว่า กำหนดการทำบุญ 100 วันน้องชมพู่นั้นเป็นช่วงเช้า เริ่ม 07.00 – 08.00 น. ถวายสังฆทานพระ 9 รูป และถวายอาหารพระเช้า เพราะพระต้องฉันเช้า หลังจากนั้นทำกับข้าวเลี้ยงกินกันเองเล็ก ๆ ภายในครอบครัว ไม่ได้จัดงานใหญ่ เรียกชาวบ้านใกล้ ๆ มากินข้าวกัน โดยจะไม่มีการไปจุดที่น้องชมพู่จากไป

นางสาวิตรี วงศ์ศรีชา แม่ของน้องชมพู่ ให้ข้อมูลว่า วันแม่ปีนี้ไม่มีน้องชมพู่ ตนก็เหงาและคิดถึงลูก เมื่อปีที่แล้วคือการกราบครั้งแรกและครั้งเดียวของน้องชมพู่ วันนี้ไม่มีเขารู้สึกเศร้าใจและคิดถึง

แม่ของน้องชมพู่ ยังบอกอีกว่า ในใจจริง ๆ แล้วตนไม่คิดว่าเป็นการเสียทั้งป้าแต๋นและลุงพลไป เพราะตนไม่ได้ตัดเขาทั้ง 2 คนทิ้ง ไม่เคยคิดว่าพวกเขาไม่ใช่พี่ เพราะเรายังเป็นพี่น้องกันอยู่ ความรักก็ยังรักกันอยู่ แต่ความห่างอาจจะเปลี่ยนแปลงไปแล้ว มีอะไรก็ยังช่วยเหลือกันได้ แต่อยากจะให้ทุกอย่างเป็นเรื่องของเวลาที่จะเยียวยาใจ

ทีมข่าวพูดคุยกับนายไชย์พล วิภา ลุงของน้องชมพู่ เปิดเผยว่า ตนคงไม่ไปร่วมทำบุญ 100 วันที่บ้านของน้องชมพู่ เพราะถ้าตนไปแล้วครอบครัวเขาไม่สบายใจ ตนก็ไม่อยากที่จะไปในงาน แต่ตนจะไปทำบุญให้น้องชมพู่เอง และตนกลัวว่าถ้าไปบ้านเขาก็จะไปกระทบจิตใจครอบครัวน้องชมพู่

นางสมพร หลาบโพธิ์ ป้าของน้องชมพู่ เปิดเผยว่า สำหรับทำบุญร้อยวันตนคิดว่าตนสามารถไปได้ และคิดว่าจะไปร่วมด้วย แต่ลุงพลนั้นไม่แน่ว่าจะไปหรือไม่ แต่ตนนั้นจะไปอยู่แล้ว เพราะคนในงานก็พี่น้องทั้งนั้น คงจะไม่เป็นอะไรที่จะไปร่วมงาน

ทนายรัชพล ศิริสาคร ได้เดินทางไปให้กำลังใจยังบ้านของน้องชมพู่ โดยได้มอบพระและนั่งพูดคุยกับพ่อแม่ของน้องชมพู่ที่บริเวณแคร่หน้าบ้าน โดยทนายรัชพล ได้มอบล็อกเกตหลวงพ่อบุญลือ เขมโก วัดจำปา อ.ท่าเรือ จ.พระนครศรีอยุธยา ให้กับครอบครัว 2 องค์ และบอกกับทางครอบครัวว่า ตอนนี้ในด้านคดีก็ยังไม่มีอะไรชัดเจน จึงอยากให้คืนดีกับลุงพล เพราะเสียลูกไปแล้ว ไม่อยากให้เสียญาติไปอีก

ทางด้านแม่ของน้องชมพู่ ก็ยังเชื่อว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจ จะทำตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด และตนก็ต้องปล่อยไปตามใจคิด ต้องให้เวลากับหัวใจบ้าง ซึ่งตนก็ไม่ได้ชี้เฉพาะลุงพล เพราะทุกคนในหมู่บ้านเป็นผู้ต้องสงสัยได้ทั้งหมด รวมถึงพ่อกับแม่ด้วย

ทนายรัชพล กล่าวต่อว่า ตนเพียงอยากมาดูสถานที่เกิดเหตุ และในวันที่ 12 ส.ค.63 เวลา 08.30 น. ตนก็จะเดินทางขึ้นเขาภูเหล็กไฟไปยังจุดพบศพของน้องชมพู่ ในส่วนของลุงพลจะมีความผิดหรือไม่ก็ต้องดูตามข้อเท็จจริง ถ้าทำผิดจริงก็ต้องถูกลงโทษ แต่ถ้าไม่มีพยานหลักฐาน ตนมองว่าก็ไม่สามารถเอาผิดลุงพลได้

 

แม่ของน้องชมพู่ กล่าวต่อว่า ตนเพียงคนเดียวคงไม่สามารถชี้ว่าใครเป็นคนผิด แต่ตนคิดว่าทุกคนต้องพิสูจน์ตัวเอง ทนายรัชพล จึงกล่าวว่า ตนติดตามข่าวมานาน เห็นพ่อแม่สูญเสียลูกแล้ว ไม่อยากให้เสียญาติไปอีกคน