เรื่องราวสะท้อนสังคมจากครอบครัวของ สุขสม (ป๊อก-ปิยธิดา) เป็นสาวทำงานเก่ง หน้าที่การงานดี รายได้สูง ในขณะที่ชัชรินทร์ (หนุ่ม-ศรราม) สามี มีตำแหน่งและหน้าที่การงานในระดับกลาง แถมยังมีรายได้น้อยกว่า สุขสมจึงเป็นผู้ดูแลรับผิดชอบค่าใช้จ่ายในบ้านทุกอย่างเอง แต่การที่สุขสมมีหน้าที่การงานเจริญเติบโตอย่างต่อเนื่อง ทำให้ชีวิตครอบครัวของเธอเองเริ่มมีปัญหา สุขสมไม่มีเวลาเลี้ยงดูแลลูก ต้องปล่อยให้เป็นหน้าที่ของเจริญ และเพ็ญ (แอ๊ว-อำภา , ดีเจอาทซ์ชี่) คนรับใช้ ส่วนชัชรินทร์ ก็ไม่ได้ใส่ใจอะไร ชอบเที่ยวกลางคืน กินเหล้าเที่ยวผู้หญิง หาทางระบายความเครียดด้วยตัวเอง สุขสมเองก็รู้ว่าตัวเองบกพร่องในหน้าที่ภรรยามานาน จนทำให้เกิดรอยร้าวในครอบครัว จึงคิดจะปรับตัวใหม่ แต่เมื่อพบว่าชัชรินทร์ไปเที่ยวกลางคืนมา ก็โมโห ต่อว่ากัน โดยสุขสมหลุดด่าว่า ชัชรินทร์เป็น “ลูกไอ้ขี้คุก” เพราะพ่อของชัชรินทร์เคยเข้าคุกจากคดีขนของหนีภาษี จนชัชรินทร์บันดาลโทสะ ทำร้ายสุขสม
สุขสม เข้าใจผิดตลอดว่า นางสม (ตุ๊ก-เดือนเต็ม) แม่แท้ๆไม่รักและสนใจตน คิวว่าเป็นห่วง และรักแต่สายสนม (ไอซ์-อมีนา) และสืบสาย น้องสาวและน้องชายที่มีหน้าตาสวย และหล่อ ทั้งๆที่นางสมรักลูกทุกคน สายสนมเป็นผู้หญิงสวย และนิสัยตรงกันข้ามกับสุขสม เป็นคนอารมณ์ดีไม่โกรธ ไม่โมโหง่าย สายสนมอยู่กับนางสม คอยดูแล และดูแลกิจการที่ดินสวนผลไม้ที่ชานเมือง ด้านชัชรินทร์ไม่เคยใส่ใจปัญหาใดๆในบ้าน แถมยังเจ้าชู้ พาสาวไซด์ไลน์มานอนในห้องนอนของเธอ สุขสมแก้เผ็ดชัชรินทร์ด้วยการขังเขาไว้ในห้อง
และไปฟ้องอัครพล (เอี๊ยง-สิทธา) หัวหน้างานของชัชรินทร์ให้เข้ามาช่วยเหลือ ไม่ให้ชัชรินทร์ทำร้ายเธอได้อีก อัครพลเป็นคนที่ไม่ชอบยุ่งเรื่องราวชาวบ้าน แต่จำเป็นต้องถูกดึงเข้ามาอยู่ในเหตุการณ์เพราะทนการรบเร้าของสุขสมไม่ได้ ปัญหาในบ้านรุนแรงมากขึ้นเรื่อยๆ จนกระทบต่อจิตใจจิ๊บ และ จ๋า (น้องอั่งเปา, น้องเพลง)ลูกชายและลูกสาวของสุขสม จากเด็กน่ารัก มีความสุข ก็กลายเป็นเด็กเริ่มมีปัญหา ทะเลาะกันเอง เมื่อนางทองใบ (ตุ๊ก-ญาณี) แม่ของชัชรินทร์มาเยี่ยมหลานๆ จึงรู้ว่าสุขสมและชัชรินทร์มีปัญหากันหนักมาก นางทองใบยังคงเข้าข้างลูกชาย เพราะไม่ได้ชอบหน้าสุขสมลูกสะใภ้มานานแล้ว
ชัชรินทร์เริ่มพาเพื่อนๆมาเล่นไพ่ กินเหล้าที่บ้าน ส่งเสียงดังโวยวาย สุขสมอาละวาดด้วยการ โยนรองเท้าเพื่อนๆทุกคนลงคลอง และปล่อยยางรถทุกคัน จนกลายเป็นเรื่องวุ่นวายใหญ่โต สุขสมยังคงทะเลาะกับชัชรินทร์มากขึ้นทุกวัน จนถึงขั้นบาดเจ็บ เมื่อสุขสมเอากระถางต้นไม้โยนไปโดนเข่าชัชรินทร์จนต้องเข้าเฝือก นอนโรงพยาบาลหลายวัน สุขสมมักจะปรึกษาเรื่องในครอบครัวกับปกรณ์ (อั๋น-วิทยา) หนุ่มรุ่นน้อง ที่เป็นหัวหน้างาน และเป็นลูกชายของประธานบริษัท สุขสมแอบชอบปกรณ์และยังแอบคิดว่า หากเธอแต่งงานกับปกรณ์ชีวิตน่าจะดีกว่านี้ นางทองใบแม่ของชัชรินทร์ คิดจะยุให้เลิกกับสุขสม จึงพาระยับ (ญี่ปุ่น-ณภัทร) ลูกสาวเจ้าของโรงไม้ที่ระยอง สาวคนใหม่ที่เล็งไว้ให้เป็นเมียคนใหม่ของชัชรินทร์ มาดูแลพยาบาลชัชรินทร์ โดยพากันมาจัดห้องนอนใหม่ เพื่อให้ชัชรินทร์อยู่สบายขึ้น
ด้าน ปกรณ์ แอบชอบ สายสนม และ พยายามสานต่อความสัมพันธ์ ในขณะที่ชัชรินทร์ ลาออกจากงาน เข้ามาทำงานที่บริษัทจัดสรรที่ดินของเมีย แต่ก็ทำอะไรไม่ได้ เมื่อเบื่อมากๆเข้า ชัชรินทร์ก็คิดแผนใหม่ได้ ในเวลาเที่ยงของทุกวัน เขาจึงออกไปสังสรรค์กับเพื่อนฝูง และต่อด้วยบริการอาบอบนวดแทน สุขสมเริ่มเอะใจเรื่องพฤติกรรมของชัชรินทร์ที่ดูเรียบง่ายเกินไป แต่แต่งตัวหล่อออกจากบ้านทุกวัน จึงจ้างลูกน้องที่ทำงานสะกดรอยตาม จนรู้ว่าชัชรินทร์ไปเที่ยวอาบอบนวด ชีวิตที่สงบสุขชั่วคราวของครอบครัว เริ่มมีปัญหากันอีกครั้ง
ในที่สุด ชัชรินทร์ก็เริ่มติดใจ จุ๋ม หรือชูใจ (กระติ๊บ-ชวัลกร) สาวอาบอบนวด ที่กำลังมาแรงที่สุด มีลูกค้าต่อคิวใช้บริการมากที่สุด และทำเงินได้มากที่สุด ชัชรินทร์คิดแต่ว่า หากได้จุ๋มมาเป็นเมียคนใหม่คนจะดี เพราะเบื่อสุขสม เมียสุดโหด ที่จัดการบงการชีวิตของเขาไปเสียทุกอย่าง ชัชรินทร์เดินหน้าจีบจุ๋มทุกวิถีทาง ถึงขั้นพาจุ๋มไปหาแม่ทองใบที่ระยอง แล้วอ้างว่าจุ๋มเป็นลูกเศรษฐี ผู้หญิงคนใหม่ที่เขาเล็งไว้ทดแทนเมื่อเลิกกับสุขสม แรกๆนางทองใบก็ไม่ค่อยจะเชื่อ เพราะดูจากสภาพการแต่งกายของจุ๋มแล้ว ไม่น่าจะใช่ แต่ชัชรินทร์ก็พูดจาโน้มน้าวจนแม่ทองใบหลงเชื่อ และให้เงินก้อนใหญ่กับชัชรินทร์เพื่อสร้างภาพให้สมฐานะกับจุ๋ม สุขสมคิดจะหย่าชัชรินทร์อยู่แล้ว เนื่องจากไม่เห็นหนทางที่จะทำให้ครอบครัวสมบูรณ์ได้อีก จึงเริ่มส่งจิ๊บ จ๋า เพ็ญ และแม่เจริญไปอยู่กับนางสมที่บ้านสวนชั่วคราว คิดแผนการจัดการ และหย่ากับชัชรินทร์
ขณะที่ความสัมพันธ์ระหว่างอัครพล และสายสนมได้คืบหน้าไปเรื่อยๆ จากความสนิทสนมกันนี่เอง ทำให้อัครพลเริ่มรุกโดยการขอแต่งงาน ชัชรินทร์ไปพักอยู่ที่บ้านจุ๋ม ไม่ทำมาหากิน ชีวิตไม่สวยหรู กลายเป็นบ้านสกปรก ไม่มีคนทำอาหารให้กินอร่อยๆเหมือนเดิม ชัชรินทร์อยู่ไม่ได้ แถมเงินเริ่มหมด จึงหนีกลับไปหาแม่ทองใบที่ระยอง พร้อมเล่าปัญหาเรื่องสุขสมให้ฟัง นางทองใบจึงจัดการใหม่ ให้ลงเอยกับ ระยับ ผู้หญิงที่นางทองใบต้องการให้ตบแต่งเป็นเมียชัชรินทร์มาอยู่ที่บ้าน พร้อมจัดบ้านใหม่ทั้งหมด บังคับให้ชัชรินทร์อยู่ที่บ้าน ไม่ให้ออกไปไหน นางทองใบยังเอาสินค้าหนีภาษี ทั้งเหล้าและบุหรี่มากักตุนไว้ที่บ้าน เพื่อทยอยนำออกมาขายในตลาดมืดอีกด้วย แม้ว่าชัชรินทร์พยายามบอกว่าไม่ให้ทำเรื่องผิดกฎหมาย แต่นางทองใบไม่สนใจ แถมบอกว่าธุรกิจนี้ทำมาตั้งแต่แรก และเป็นธุรกิจที่ทำรายดีมาโดยตลอด
ความเจ้าเล่ห์ของชัชรินทร์ทำให้มองเห็นช่องทางหาเงินได้อีก โดยหลอกจุ๋มว่า อยากจะหย่ากับสุขสม แต่ติดขัดที่ต้องจ่ายเงินค่าหย่าก้อนใหญ่มาก จุ๋มจึงจัดการให้เงินตามที่ชัชรินทร์ต้องการ ชัชรินทร์นัดสุขสมไปหย่า โดยที่สุขสมตอบตกลงทันที เพราะไม่อยากเสียหน้า ทั้งสองตกลงหย่ากันโดยที่ต่างฝ่ายต่างไม่เรียกร้องค่าเสียหายใดๆทั้งสิ้น และสุขสมจะเป็นผู้ดูแลลูกๆเองทั้งหมด
ด้านระยับ ที่โดนชัชรินทร์หลอกเอาเงินไปเสียใจมาก จนยวงพี่ชายของระยับ ซึ่งเป็นนักเลงโตรู้เรื่องทั้งหมดจึงยกพวกมาหาชัชรินทร์ที่บ้าน และในที่สุด แม่ทองใบฝากเอาเหล้าและบุหรี่หนีภาษีที่เตรียมส่งไปขายในตลาดมืดมาไว้ท้ายรถของชัชรินทร์ ระหว่างนั้นตำรวจเข้ามาจับกุม เพราะมีรายงานว่าบ้านนี้ค้าขายของหนีภาษี ชัชรินทร์จึงโดนจับเข้าคุก เหมือนกับที่พ่อของเขาเคยโดนมาแล้ว คุณนายทองใบเสียใจมาก แต่ก็ไม่กล้าไปเยี่ยมชัชรินทร์ ได้แต่ส่งคนไปส่งข้าวส่งน้ำ รวมถึงจุ๋มที่คอยไปเยี่ยมตลอด กลายเป็นว่าจุ๋มเป็นคนเดียวที่รัก และเป็นห่วงชัชรินทร์จริงๆ
สุขสมแอบมาเฝ้ามองเหตุการณ์ที่ชัชรินทร์โดนจับ เธอคิดถึงเหตุการณ์ที่เธอเคยต่อว่าชัชรินทร์ว่าเป็นลูกไอ้ขี้คุก เป็นเรื่องที่ชัชรินทร์ไม่ชอบมากที่สุด และเขาพยายามหนีเรื่องการค้าของหนีภาษี เพื่อไม่ให้เป็นอย่างที่พ่อเขาเคยเป็นมาก่อน แต่แล้วเหตุการณ์นี้ กำลังกลับมาย้อนกับครอบครัวของเธอเอง ซึ่งอาจจะเป็นตราบาปในใจของจิ๊บและจ๋า ลูกทั้งสองของเธอ ที่อาจจะโดนเพื่อนๆล้อว่า ลูกไอ้ขี้คุกเหมือนกัน จึงไปขอความช่วยเหลือจากปกรณ์ช่วยหาทนายเก่งๆ มาช่วยเหลือให้ชัชรินทร์ออกจากคุกให้ได้
มาร่วมลุ้นปัญหาครอบครัว และ การเรียนรู้ที่ผิดพลาดจากการเลี้ยงดูของ พ่อ และแม่ ได้ในละครดราม่าเข้มข้นส่งท้ายปี “บังเกิดเกล้า” กับช่วงเวลาสุดสัปดาห์ช่อง 34 ละครดีสี่ทุ่ม ทุกคืนวันเสาร์ – อาทิตย์ เวลา 22.00 น. ทางอมรินทร์ทีวี เอชดี ช่อง 34
