เกาะติดข่าวดาราก่อนใคร

กดติดตาม “ทีวีพูล”

banner

เป็นดารานักแสดงตัวจริงต้องฝีมือครบเครื่อง จะมายึดติดบทใดบทหนึ่งขอเล่นจนแก่ตายคาจอไม่มีทางเดินบนถนนสายบันเทิงไปได้ไกลหรอก ยิ่งกอดบทพระเอกนางเอกเอาไว้ไม่ยอมเปลี่ยนแปลงตัวเอง ไม่ยอมขยับขยายไปขายฝีมือในบทอื่นๆ มีหวังโดนเด็กรุ่นใหม่มาแรงวิ่งแซงไปหมด เราจึงได้เห็นดาราระดับนางเอกอีกหลายคนสลัดภาพนางเอกแสนดีกลายเป็นนางร้ายชนิดร้ายได้โล่ห์ จนไม่ยอมกลับมาเป็นนางเอกอีกเลย  ซึ่งทุกคนถือว่าทำได้ดีอวดฝีมือได้ปังเรียกกระแสได้เปรี้ยงปร้างกว่าเก่าซะอีก ไล่รายชื่อดูได้เลย

นางเอกก็ได้นางร้ายก็เด่น

วาววา-ณิชชา โชคประจักษ์ชัด นางเอกอิสระเบอร์ล่าสุดของวงการ หลังแยกทางจากช่อง 3 ตอนนี้ถือว่าร้อนแรงที่สุด เพราะเพิ่งจะสลัดภาพนางเอก เรื่องหลังสุดก็ “ไข่มุกมังกรไฟ” ทิ้งไปแล้วมารับบทนางร้าย ใน “ร้อยเล่ห์มารยา” ซึ่งก็ถือว่าฝีไม้ลายมือแซ่บสะใจเข้าตาแฟนๆเหลือเกิน เรียกว่าเล่นได้ท้าทายหนามทุเรียนจนเผลอคิดว่าเป็นนางร้ายมืออาชีพแถวหน้าของวงการ เป็นอีกหนึ่งบทบาทที่โดดเด่นที่สุดในชีวิตการแสดง อาจจะทำให้ลืมภาพนางเอกกันไปเลย แต่ก็ถือซะว่าได้แจ้งเกิดอีกครั้งบนเส้นทางที่น่าจะไปได้ไกลในวงการบันเทิงและถ้าใครเป็นแฟนพันธุ์แท้ต้องไม่ลืมว่าวาววาประเดิมจอในบทร้ายจากละครเรื่อง “แววมยุรา” ที่มี “บอย-ปกรณ์” ประกบ “มารี เบิร์นเนอร์”

 

ใบเฟิร์น-อัญชสา มงคลสมัย เป็นดาราสมทบตัว 3 ตัว 4 เป็นนางร้ายท้ายๆ แถวในละครช่อง 3 พอพ้นจากชายคาช่อง 3 มาร่วมงานกับช่องวันบทเริ่มเด่นขึ้น แต่แรกๆ ก็ยังส่งบทนางร้าย นางรองมาให้ลับฝีมืออีกหลายเรื่อง ก่อนจะมาปังๆเลยก็บทนางร้ายใน “กับดักเสน่หา” ที่เล่นร้ายได้แซ่บๆคันๆ ติดตาติดใจแฟนๆ เหลือเกินจนรับฉายาคารายมายด์ ตอนนี้ขึ้นแท่นนางเอกช่องวันไปแล้ว จากนางเอกร่วมใน “สายรักสายสวาท” ก็มาเป็นนางเอกนำใน “ภูตพิศวาส” และ “รักแลกภพ” เรียกว่ากว่าจะขึ้นมาได้ขนาดนี้ ก็ผ่านบททดสอบมาเยอะ

มารี เบิร์นเนอร์ อดีตนางเอกดาวรุ่งช่อง 3 ประเดิมจาก “แววมยุรา” ต่อด้วย “รักคุณเท่าฟ้า, แม่เปียดื้อ, กุหลาบซ่อนกลิ่น” แล้วก็ฉีกสัญญาจาก ช่อง 3 พักงานไปร่วม 2 ปี กลับมาอีกทีร่วมงานกับช่องวัน สลัดภาพนางเอกสดใสรับบทร้อนแรงขึ้นเรื่อยๆ จนมาเปรี้ยงสนั่นจอกับบทร้ายใน “ชิงรักริษยา” ต่อด้วย “เมีย 2018” ลับฝีมือได้ที่ทางช่องวันก็พลิกกลับมาให้เป็นนางเอกอีก แจ้งเกิดสวยๆ กับบทนางเอกอีกครั้งใน “ลูกกรุง” ต่อด้วย “สายลับจับกลิ่น” ล่าสุดก็ใน “เลดี้บานฉ่ำ”

เฌอเบลล์-ลัลณ์ลลิน เตจะศา เวศซ์ นางเอกที่แจ้งเกิดมาตั้งแต่ยุคเอ็กแซ็กท์ครองจอวิกสนามเป้า จาก “ดอกโศก” ละครดราม่าน้ำตาท่วมจอในฐานะนางเอกเจ้าน้ำตา แต่หลังๆ มา ตีบทนางร้ายแตกกระจุยกระจาย จะร้ายลึก ร้ายปรี๊ดแตก ร้ายเซ็กซี่ขยี้ใจ ทำได้หมด เล่นดีซะจนนึกว่าจะไม่ได้กลับมาเป็นนางเอกอีกแล้ว แต่ฝีมือซะอย่างล่าสุดกลับมาเป็นนางเอกอีกครั้งพลิกเป็นนางเอกแนวบู๊กับละครบุกป่าฝ่าดง “ดงพญาเย็น” ทางช่องวัน

เปรี้ยว-ทัศนียา การสมนุช เป็นนางเอกดาวรุ่ง 7 สี แจ้งเกิดจากละครเย็น “แม่ปูเปรี้ยว” ก่อนขยับขึ้นละครหลังข่าว “โดมทอง” แต่เรื่องต่อมาทางช่องจับไปรับบทร้าย “อีเปีย” ใน “คมพยาบาท” เฉยเลย ซึ่งก็เล่นได้ร้ายขึ้นจอมากๆ จนนึกว่าจะไม่ได้กลับมาเป็นนางเอกอีกแล้วเพราะเรื่องถัดมา “พรายพยากรณ์” รับบทรอง แต่ช่อง 7 ก็ยังให้โอกาสกลับมาเป็นนางเอกอีก ก่อนที่จะไปปังกับการพลิกร้ายอีกครั้งใน “เพลิงพระนาง” ในบทเจ้านางปิ่นมณี แล้วกลับมาปังต่อกับบทนางเอกในละครเรตติ้งกระฉูดแห่งปี “สารวัตรใหญ่” และตอนนี้ก็กลายเป็นนางเอกขายดีของช่องไปอีกคนแล้ว

 

มิว-นิษฐา จิรยั่งยืน นางเอกหน้าหวานไม่ค่อยได้เห็นรับบทแรงๆ แต่ก็ตัดสินใจรับบท “เจ้ามิ่งหล้า” บทร้ายใน “รากนครา” ซึ่งกระแสละครอาจไม่เปรี้ยงแต่มิวก็ได้ยกระดับฝีมือไปอีกขั้น ก่อนจะกลับมาเป็นนางเอกอีกสองเรื่องรวดทั้ง “พ่อยุ่งลุงไม่ว่าง” และละครกระแสดี “อกเกือบหักแอบรักคุณสามี”

เต้ย-จรินทร์พร จุนเกียรติ นางเอกสายแบ๊ว ที่รับบทนางร้ายเล็กพริกขี้หนูเผ็ดร้อนในละครกระแสร้อน “คลื่นชีวิต” ได้แบบแฟนๆ ยกนิ้วให้ว่าแซ่บ ก่อนที่จะกลับมาเป็นนางเอกได้อีกในละครเรื่องต่อๆ มาทั้ง “บัลลังก์ดอกไม้ ,The Cupids, มีเพียงรัก, ทุ่งเสน่หา” และล่าสุดก็ “ความทรงจำสีจาง”

by TVPOOL ONLINE