เกาะติดข่าวดาราก่อนใคร

กดติดตาม “ทีวีพูล”

banner

 

‘อี๊ฟ พุทธธิดา’ กับสามี ติดโควิด!

โควิดระบาดหนักลุกลามไปแทบทุกวงการ โดยเฉพาะในวงการบันเทิงที่มีคนดังติดเชื้อโควิดไปหลายคนแล้ว อี๊ฟ พุทธธิดา ศิระฉายา ลูกสาวต้อย เศรษฐา ศิระฉายา นักแสดงอาวุโส โพสต์แจ้งผ่านอินสตาแกรมว่า

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

เพิ่งจะได้โพสต์เพราะมีหลายอย่างต้องทำ และต้องทำใจที่จะต้องแยกจากลูกและพ่อกับแม่ เนื่องจากวันที่ 11 เม.ย. ช่วงกลางวันมีอาการเจ็บคอเล็กน้อย และช่วงเย็นมีไข้ขึ้น ประมาณ 37.5 องศาเซลเซียสเช้าวันที่ 12 เม.ย. สามีมีอาการไอเล็กน้อยแต่ไม่มีไข้ ทั้งสองคนจึงแยกพื้นที่ออกจากคุณพ่อคุณแม่ และลูกชาย รวมถึงคนอื่นในบ้าน จากนั้นได้พยายามหาทางตรวจโควิด-19 แต่เนื่องจากทุกโรงพยาบาลคิวตรวจแน่น จึงตัดสินใจไปตรวจกับคลินิก เพราะต้องการทราบให้เร็วที่สุดว่าติดโควิดหรือเป็นหวัดทั่วไป เนื่องจากอยู่บ้านเดียวกันกับคุณพ่อที่ป่วยและคุณแม่ที่อายุมากทั้งคู่ และมีบุตรที่ยังเล็ก

กระทั่งช่วงบ่ายวันที่ 13 เม.ย. ผลออกมาว่าอี๊ฟและสามีติดโควิดทั้งคู่ จึงแจ้งผู้ที่พบเจอใกล้ชิดทุกคนแล้ว ที่ผ่านมาได้พยายามระวังตัวอย่างดีที่สุดและคิดว่าไม่ได้ไปในที่สุ่มเสี่ยงหรือการ์ดตก เพราะปกติระวังตัวกันมากว เนื่องจากที่บ้านมีทั้งผู้สูงอายุและเด็ก แต่จากเหตุการณ์นี้ทำให้รู้ว่าเราอาจจะเจอกับผู้ที่มีเชื้อมา ถึงจะไม่มีอาการไม่ได้แปลว่าไม่มีเชื้อ และเราไม่ควรประมาท ถอดหน้ากาก เพราะไม่มีทางรู้ว่า ใครไปไหนเจอใครอย่างไรกันบ้าง

อี๊ฟ ระบุว่าอีกว่า โทษใครไม่ได้เพราะเป็นความประมาทของตัวเอง และต้องเข้าใจคนอื่นเพราะเขาอาจจะไม่รู้ว่ามีเชื้อ และไม่มีอยากจะใครป่วย ดังนั้น ดีที่สุดคือสวมหน้ากากตลอดเวลาที่ออกจากบ้าน ล้างมือด้วยเจลแอลกอฮอลล์บ่อยๆ อย่าไปไหนโดยไม่จำเป็น ตอนนี้อี๊ฟและสามีได้รับการดูแลโดยเข้ากักตัวที่ Hospitel เรียบร้อยแล้ว ขอให้ทุกคนปลอดภัย

นอกจากนี้ “อีฟ” ยังได้เผยไทมไลน์ก่อนที่เธอจะรู้ตัวว่าติดโควิดให้แฟนๆและคนใกล้ตัวทราบด้วย โดยมีดังต่อไปนี้

“วันที่ 4 อยู่บ้าน

วันที่ 5 ไปดูตึกออฟฟิศกับเพื่อน ใช้รถส่วนตัว

วันที่ 6 ไปรับลูกที่ Central Eastville ตอน 12.30น. ไม่ได้เข้าห้องเรียนด้วย ไปซื้อของที่ supermarket ใส่แมสก์ตลอดเวลา

วันที่ 7 ประชุมที่ออฟฟิศไม่ได้ใส่แมสก์ และมีผู้ร่วมประชุมอยู่ 5ท่าน ตอนนี้ 3ใน5คนป่วย คาดว่าติดจากตรงนี้ค่ะ

วันที่ 8 ทานมื้อเย็นที่ร้านบ้านครบรส

วันที่ 9 อยู่บ้าน

วันที่ 10 ไปซื้อยาให้คุณพ่อที่ Pharmax ถนนเลียบทางด่วนใส่แมสก์ตลอดเวลา และซื้อกาแฟที่starbucks ไม่ได้ดื่มในร้านซื้อมาดื่มที่รถ ไปซื้อผักที่ Golden Placeใส่แมสก์ตลอดเวลา และไปรับพิซซ่าที่สั่งไว้ที่ร้าน Italian Proudfa (town in town) รับกลับมาทานที่บ้าน

วันที่ 11 ใส่แมสก์ตลอดเวลาไปร้านเจริญชัยการช่างเข้าไปแค่ 10นาที ไปพาหุรัด ไปมนต์นมสดซื้อกลับบ้าน ไปสั่งข้าวที่ร้านส.หน้าวังกลับบ้าน ไม่มีร้านไหนที่นั่งทานในร้านค่ะ คืนวันที่11มีไข้

วันที่ 12 แยกจากครอบครัวอยู่บ้านคนละตึก และไปตรวจหาเชื้อ

วันที่ 13 อยู่บ้านกักตัวที่บ้านรอผล และผลพบว่าติดเชื้อ แจ้งบุคคลใกล้ชิดและคนที่เจอ

วันที่ 14 ช่วงเย็นได้รับการตอบรับจากทาง Hospitel คุณหมอรับตัวมาอยู่ในความดูแลเรียบร้อยค่ะ

          ในส่วนของร้านบ้านครบรส ทางร้านได้มีการพ่นยาฆ่าเชื้อเป็นประจำอยู่แล้วช่วงเช้าก่อนเปิดร้าน (เป็นช่วงทำความสะอาดก่อนเปิดร้าน) อย่างไรก็ตามในวันที่ 10 ได้รับการดูแลจาก Nano9 มาฉีดพ่นทำความสะอาดเพื่อฆ่าเชื้อโรคด้วยค่ะ แต่เนื่องจากตามไทมไลน์อี๊ฟได้เดินทางไปที่ร้านในวันที่ 8 ทางร้านจึงมีมาตรการปิดเพื่อพ่นยาฆ่าเชื้อโรค พร้อมทั้งให้พนักงานกักตัว 14วัน ค่ะ ทางร้านจึงปิดทำการค่า”

ล่าสุด (18 เม.ย. 2564) “อีฟ พุทธธิดา” ก็ได้โพสต์ข้อความแจ้งข่าวอีกครั้ง หลังจากที่ “คุณพ่อต้อย เศรษฐา – คุณแม่เปี๊ยก อรัญญา” และลูกชายสุดที่รัก “น้องมีบุญ” ได้ทำการตรวจหาเชื้อเมื่อวันที่ 15 เม.ย. ที่ผ่านมา ซึ่งผลปรากฎว่าทางด้านพ่อต้อย-แม่เปี๊ยก นั้นผลเป็นไม่พบเชื้อใดๆ แต่ทางด้านลูกชาย พบว่าผลออกมาเป็นบวกติดเชื้อโควิด-19 แต่จำนวนเชื้อไม่เยอะมาก และยังไม่มีอาการใดๆ“ไม่ได้ลงอะไรเพราะเมื่อวานและวันนี้วุ่นมาก เนื่องจากในวันที่ 15 เม.ษ. ที่ผ่านมา สมาชิกครอบครัวคนอื่นๆ ได้ทำการตรวจหาเชื้อโควิด ผลกลับมาวันที่ 16ว่า ทุกคนในบ้านรวมถึงคุณพ่อคุณแม่อี๊ฟไม่พบเชื้อ แต่น้องมีบุญพบเชื้อโควิด ในรอบ CT ที่ 32 และ36 ซึ่งถือว่าจำนวนเชื้อไม่เยอะมาก และไม่มีอาการใดๆ เลย คือไม่มีไข้ ไม่มีหายใจผิดปกติ ไม่มีผื่น ไม่มีอาการผิดปกติ แต่เนื่องจากพบเชื้อ จึงมีความจำเป็นที่จะต้องแยกกับคนในบ้าน และเนื่องจากอี๊ฟกับต้นอยู่ที่ Hospitel จึงปรึกษากับคุณหมอว่าจะสามารถให้มีบุญมาอยู่กับพ่อแม่ที่ Hospitel นี่ได้หรือไม่ คุณหมอพิจารณาแล้วอนุญาต เนื่องจากมีบุญยังไม่มีอาการอื่น และยังคงต้องสังเกตอาการ โดยคุณหมอขอให้แม่และพ่อใส่หน้ากากตลอดเวลาที่อยู่กับมีบุญ เพื่อเป็นการป้องกัน (เนื่องจากเชื้อที่พบค่อนข้างน้อย ยังไม่สามารถแน่ใจว่าเป็นช่วงขาขึ้นหรือขาลงของโรค จึงไม่อยากให้ได้เชื้อเพิ่มเติม)

และต้องสังเกตอาการอย่างใกล้ชิด หากมีอาการผิดปกติอื่นเพิ่มเติมและมีความจำเป็นต้องส่งโรงพยาบาลเพื่อรักษาก็จะต้องทำเป็นขึ้นตอน แต่ตอนนี้อนุญาตให้มากักตัวดูอาการกับพ่อและแม่ได้ค่ะ เพื่อแยกออกจากคุณตาคุณยายและคนอื่นๆ ที่บ้าน เมื่อคืนแม่นอนไม่หลับเลยตอนมาถึงตอนแรก X ray ปอดคุณหมอบอกเห็นจุดแปลกๆ และต้องรอคุยกับหมอเด็กเพิ่มเติม แม่คิดว่าต้องย้ายไปรพ.แล้ว และแม่ก็นอนไม่หลับเลยได้แต่นอนเงี่ยหูฟังเสียงหายใจลูก ว่าจะมีหอบ มีหายใจติดขัดไหม นอนไปเครียดไป ตอนเช้าคุณหมอแจ้งว่าคุยกับหมอเด็กแล้วปอดของมีบุญยังปกติดี ให้อยู่กับพ่อแม่ดูอาการต่อไปได้ค่ะ ตอนนี้มีบุญอยู่กับป่าป๊าและแม่ๆ แล้ว คุณหมอ X Ray ปอดอีกทีเมื่อเช้าแล้ว ยังไม่มีอะไรผิดปกติ มีแต่ป่วนพ่อกับแม่มากๆ เลยน้องอ้วน ขอให้ทุกๆ คนปลอดภัยนะคะ ดูแลตัวเองกันด้วยน้า #babymeeboon #tonnyvesmeeboon #tonnyvesfamily”