เมื่อวันที่ 29 พ.ค.ที่ผ่านมาหมอล็อต เผยลิงแสมที่กรมอุทยานฯที่ช่วยเหลือจากแก๊งค้าสัตว์ป่าข้ามชาติ ฟื้นตัวแล้ว โดย 2 ตัวที่อาการวิกฤติตอบสนองต่อการรักษาแต่ยังต้องดูแลใกล้ชิดเร่งตรวจเลือดและพันธุกรรม
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
- “เก๋ ชลดา” ฉลองครบรอบ 10 ปี ในนามมูลนิธิเดอะวอยซ์ ผุดโปรเจกต์สร้างรายได้ สมทบทุนช่วยเหลือสัตว์ยากไร้
- ใครจะดูแลน้อง(สัตว์เลี้ยง)ในวันที่เจ้าของติดโควิด-19 ?
นายสัตวแพทย์ภัทรพล มณีอ่อน หัวหน้ากลุ่มงานจัดการสุขภาพสัตว์ป่า กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืชกล่าวว่า ตลอดทั้งคืนที่ผ่านมา สัตวแพทย์และเจ้าหน้าที่ดูแลอาการลิงแสมทั้ง 84 ตัวที่โรงพยาบาลสนามซึ่งตั้งอยู่ที่ศูนย์ช่วยเหลือสัตว์ป่าที่ 1 จังหวัดนครนายก ขณะนี้ตัวที่มีอาการน่าเป็นห่วง 2 ตัวยังคงอยู่ในตู้ดูแลสัตว์ป่าอาการวิกฤติเพื่อตรวจสอบการหายใจและการรับออกซิเจนอย่างใกล้ชิด แต่โดยรวมตอบสนองต่อการรักษาตัวอื่นเริ่มฟื้นจากความอ่อนแอขาดน้ำและขาดอากาศขณะถูกจับรวมกันมาในรถกระบะที่ปิดทึบ ยังคงมีภาวะเครียด ได้รักษาบาดแผลจากการกัดกัน สำหรับตัวที่ตั้งท้องได้ดูแลเป็นพิเศษ
เจ้าหน้าที่ช่วยกันคัดแยกเพศ ช่วงอายุ ลักษณะทางสภาพร่างกาย เก็บตัวอย่างเลือดเพื่อตรวจสุขภาพ ป้องกันโรคติดต่อจากสัตว์สู่คน ตรวจพันธุกรรมเพื่อจะนำไปขยายผลทางคดีต่อขบวนการลักลอบค้าสัตว์ป่าข้ามชาติ โดยจะนำดีเอ็นเอของลิงของกลางไปเทียบกับลิงซึ่งอาศัยอยู่ที่วัดในจังหวัดพิจิตร ซึ่งผู้ต้องหาให้การว่า เป็นลิงจากที่นั่น แต่ความใกล้ชิดของพันธุกรรมจะบ่งบอกว่า เป็นลิงจากที่วัดแห่งนั้นที่เดียว หรือจับลิงจากที่อื่นมาด้วย มีการจับ 100 กว่าตัวในคราวเดียว หรือจับหลายครั้ง แล้วรวบรวมจนได้จำนวนตามที่ต้องการ จึงขนส่งไปขาย
หมอล็อตกล่าวต่อว่า ผู้กระทำผิดเลือกจับลิงที่อายุยังไม่เข้าสู่ช่วงตัวเต็มวัย จึงยังไม่ว่องไวมาก รวมทั้งพบลิงตัวหนึ่งมีน้ำนมไหล แต่ไม่มีลูกเกาะอก ยังไม่ทราบชะตากรรมของลูก ซึ่งขณะที่แม่ลิงมีลูกอ่อนอาจเคลื่อนไหวไม่เร็วมาก จึงถูกจับได้ง่าย ส่วนลิงตัวที่ตายทั้งหมด 18 ตัว พบว่า 4 ตัว ตายระหว่างที่จะมีการเคลื่อนย้ายเพื่อเข้ามาดูแลรักษา