วันที่ 19 ธันวาคม ผู้สื่อข่าวได้ไปพูดคุยกับ นางสาวจิดาภา ชีนารักษ์ อายุ 24 ปี เจ้าของกระเป๋าใบดังกล่าว ที่บ้านพักใน อ.สันกำแพง จ.เชียงใหม่ โดยนางสาวจิดาภา ยืนยันกับผู้สื่อข่าวว่าจะไม่ขอรับเงินจำนวน 395,000 บาท ที่โอนเข้าบัญชีมาเมื่อวานนี้ โดยทันทีที่ทราบว่าเงินเข้าบัญชีก็ได้ไปลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐาน โดยยืนยันจะขอรับเงิน 2 ล้านบาทเท่านั้น ตามที่เจ้าของร้านได้ท้าไว้ รวมทั้งขอให้เจ้าของร้านเลิกเป็นสาวสองและใช้ชื่อ “สรพงษ์” ตามที่ได้ลั่นวาจา
นางสาวจิดาภา เปิดเผยว่า ชื่นชอบกระเป๋าแบรนด์เนมมานาน ที่ผ่านมาซื้อมาใช้และขายต่อมาแล้วหลายสิบใบ กระเป๋าทุกใบเป็นของแท้และที่ผ่านมาขายต่อไปก็ไม่เคยมีปัญหาอะไร ส่วนกระเป๋าใบนี้ซื้อมาใช้เมื่อประมาณ 2 ปี ก่อน ตอนนี้อยากเปลี่ยนกระเป๋าใบใหม่จึงค้นหาร้านรับซื้อทางอินเทอร์เนต บังเอิญไปเจอร้านนี้ให้ราคาดีกว่าร้านอื่น จึงตกลงขายให้พร้อมส่งกระเป๋าไปให้ทางร้านเมื่อวันที่ 8 ธันวาคม และ ทางร้านได้รับกระเป๋าวันที่ 9 ธันวาคม จนเกิดเรื่องดราม่าดังกล่าวขึ้น
นางสาวจิดาภา บอกว่า เรื่องที่เกิดขึ้นทำให้ตนเองได้รับผลกระทบหนัก เพราะในช่วงแรกถูกชาวเนตรุมด่า ตราหน้าว่าเป็นมิจฉาชีพหลอกขายกระเป๋าปลอม ทำให้เสียใจถึงขั้นร้องไห้ แต่หลังจากที่มีการตรวจสอบว่ากระเป๋าเป็นของแท้ก็สบายใจมากขึ้น
ส่วนคู่กรณีที่ใช้ปากกาเขียนลงบนกระเป๋า เจ้าของร้านต้องรับผิดชอบเพราะทำให้กระเป๋ามีตำหนิและเสื่อมราคา ขณะที่ไลฟ์สดของเจ้าของร้านก็ทำให้ตนเองที่เป็นเจ้าของธุรกิจได้รับความเสื่อมเสีย ยืนยันว่าจะเอาเรื่องจนถึงที่สุดเพราะได้รับความเสียหาย โดยในขณะนี้ทนายเกิดผล แก้วเกิด ได้เข้ามาดูแลคดีให้ โดยในวันพรุ่งนี้จะเข้ากรุงเทพมหานครเพื่อติดตามความคืบหน้าของการดำเนินคดีในเรื่องนี้
by TVPOOL ONLINE