ย้อนความทรงจำ! เหล่านักแสดงแก๊งค์ “เบญจา คีตา ความรัก” รำลึกถึง ‘แตงโม – นิดา’

ซี ศิวัฒน์ ได้กล่าวว่า “น่าเสียดายที่พวกเราต้องมารวมตัวกันในเหตุการณ์นี้ เป็นไปได้ อยากให้เรามารวมตัวกันอีกบ่อยๆ แต่ไม่ได้อยากให้ดราม่านะ” จากนั้น น้ำ รพีภัทร

กล่าวเสริมว่า “เอาจริงๆ เพราะเพื่อนเราคนนี้เลยนะ (แตงโม) เลยทำให้เราได้มาเจอกันอีก” และซี ก็ได้ให้ทุกคนได้ย้อนวัยไป พูดถึงโมอีกครั้ง

อู๋ นวพล กล่าวต่อว่า “ตอนนั้นเขายังไม่ได้เปิดว่าตัวตนเขาเป็นยังไง กลายเป็นเราเกร็ง ไม่กล้าเข้าไปคุย แต่พอมาได้ร่วมงานมากขึ้น เริ่มคุยกู-มึง เคยคุยกับโม ประโยคหนึ่งว่า

มึงอะน่าจะเกิดเป็นผู้ชาย”

ไผ่ พาทิศ กล่าวว่า “โมเป็นคนน่ารัก เจอบ่อยตอนไปแข่งรถโตโยต้า เจอตลอดเป็น 10 ปี ตกเครื่องก็ไปรถโม ตอนนั้นสัมผัสได้เลยว่าโมเป็นคนจริงใจ ตั้งใจ และใจดี”

น้ำ รพีภัทร “เหมือนกัน คิดว่ามันเป็นเด็กผู้ชาย เหมือนเพื่อนผู้ชายเราคนหนึ่ง แต่ตอน เบญจา คีตา ความรัก ยังไม่สนิทมาก แต่พอเริ่มสนิทก็หวังดีต่อกัน”

เจี๊ยบ ชมพูนุช “น้องอ่อนไหวมาก น้องเป็นคนที่ต้องการความรัก น้องเหมือนเจอทั้งเรื่องที่ดีและไม่ดี สลับกันตลอดเวลา ไม่เคยมีช่วงที่สุขเต็มที่”

รุ้ง รุ้งเฑียร “โมเป็นเพื่อนที่น่ารัก ตอนนั้นรุ้งใหม่มากกับบทนำ รุ้งไม่มั่นใจกับคอมเมนต์ ไม่สวยเลย มาเล่นละครได้ไง คือโมเขาสวย เราก็ไปนั่งคุยกับเขา เขาให้กำลังใจ เทคแอ๊กชั่นด้วย

นางขับรถพาเราไปหาหมอเลย

เมี่ยง อติมา ” โมเป็นคนน่ารัก เป็นคนตรง จิตใจดี มีโอกาสมาได้เจอตอนเขามีลูก เจอแล้วยังพูดถึงบรรยากาศเก่าๆ แล้วก็มาเจออีกทีบนเครื่อง เมี่ยงเป็นพนักงานต้อนรับ เขาเป็นผู้โดยสาร

ก็ยังไปถ่ายรูปกันหลังเครื่อง แต่หลังจากนั้นก็ไม่ได้เจอกันอีก แต่ก็ยังติดตามเขาเรื่อยๆนะ”

จิ๊บ คีตภัทร “ก็ได้เจอโม ทุกครั้งที่ได้เจอก็เหมือนที่พี่อิมบอกว่า เขาไม่ค่อยพูดอะไรที่ทำให้เรารู้สึกเป็นห่วง มีแต่มอบความสุข ความเฮฮา น่ารัก ประทับใจมากที่สุด

ตอนนั้นที่เราถ่ายละครจบไปแล้ว พ่อจิ๊บไม่สบายแล้วเสีย ก็ไม่ได้บอกใคร โมกับพ่อโสก็มา วันที่เราแย่ เขาจะยื่นมือมาหาเรา ทั้งแววตา การกอด เขามามอบให้เราในวันที่เราแย่ที่สุด”

เชียร์ ฑิฆัมพร “เอาจริงๆ นั่งดูรูปยังคิดว่าจริงเหรอวะ เชียร์เจอพี่โมก่อนเล่นเบญจา ประกวดมิสทีนด้วยกัน จริงๆถูกจับแข่งกันตลอด แต่เชียร์โคตรโชคดีเลย คนที่เราโดนจับเปรียบเทียบคือคนที่เราสบายใจด้วยมากที่สุด

เจอกี่ครั้งก็เหมือนเดิม กลับกันสิ่งที่ใจหายและเสียใจมากที่สุด ก่อนหน้านี้ที่เชียร์ทำละคร กระสือลำซิ่ง มันจะมีตัวละครตัวหนึ่งเชียร์นึกถึงพี่โม อยากให้มาเล่นด้วยกัน เชียร์โทรหาเขา

พี่เป็นไงบ้าง สบายดีไหม คำแรกที่เขาตอบเลย คือ’ ไม่สบายว่ะ’ เราฟังตอนนั้น เสียดายว่าทำไมเราไม่ตื๊อ หลังจากนั้นมารู้ว่าเป็นช่วงที่เขาหนักมาก ไม่ว่าจะเป็นเรื่องพ่อ เรื่องความไม่มั่นใจ

เรื่องการถูกบูลลี่ หรือแม้กระทั่งสิ่งที่เชียร์เพิ่งรู้เมื่อไม่นานมานี้

เขาไม่มั่นใจแม้กระทั่งว่า คนในวงการบันเทิงจะมีใครอยากคุยกับเขาไหม เขาไม่กล้าไปคุยกับคนอื่น ตอนเกิดเรื่อง เราก็ได้แต่นึกให้ปฏิหาริย์ยังมี เราได้แต่หวังว่า ครั้งนี้กลับมาให้เราเจอหน้าอีกครั้ง

ได้ไหมวะ สภาพยังไงก็ได้ รอดได้ไหมวะ แต่ก็ไม่ได้กลับมา เชียร์แค่รู้สึกว่าการมาของผู้หญิงคนนี้เหมือนหนังสือหลายเล่ม ทำให้เห็นอะไรบางอย่างที่มีคุณค่า ไม่ใช่แค่กับใครคนหนึ่ง

แต่กับคนทั้งประเทศ ไม่ว่าเขาจะรับรู้หรือไม่ สิ่งที่เกิดขึ้นตอนนี้มันมีคุณค่าที่สุดแล้ว ความโชคดีของพวกเราที่ได้เจอเขา”

เฟี้ยว์ฟ้าว (อิม) “จริงๆทำใจไม่ได้นะ จริงๆอิมสนิทกับน้องเพราะอิมนอนบ้านน้อง ตอนถ่ายละคร เบญจา คีตา ความรัก อิมขับรถไม่เป็น แตงโมก็จะมารับอิม เราได้เห็นมุมมองความอ่อนโยนของเขา

ภาพข้างนอกอาจจะดูพูดตรง แต่ใจเขาอ่อนโยนมาก เขาพยายามให้คนรอบข้างไม่ต้องมารู้สึกกับสิ่งที่เขารู้สึก เช่น ถ้าเขาโดนดราม่าอะไร เขาพยายามจะแสดงออกให้รู้สึกว่าโอเค

อย่างที่น้องคอยบอกมาเสมอว่า ต้องให้ตายก่อนเหรอ มันเป็นความรู้สึกของน้องจริงๆ น้องโดนมาเยอะมากๆ อิมพยายามจะบอกกับทุกคนว่าก่อนที่จะคอมเมนต์ คำบางคำคนหนึ่งเปล่งออกมาไม่ตั้งใจ

แต่อีกคนอาจจะเก็บไว้หลายปีก็ได้”

จากนั้น ได้ถามทุกคนถึงวันที่ได้ทราบข่าว โดยเริ่มที่ รุ้ง รุ้งเฑียร “เขาน่ารัก เขาไม่ควรมาเจอเรื่องแบบนี้ ได้แต่หวังว่าคนจะนึกถึงเขาเหมือนที่รุ้งรัก ตลอดไป”

เมี่ยง อติมา “ตกใจมาก ได้แต่หวังว่าเขาจะปลอดภัย แต่พอเป็นไปไม่ได้แล้ว ก็รู้สึกว่าแบบในความเสียใจนั้น เขาก็ได้ไปอยู่กับคนที่เขารัก ก็ขอให้เขาได้ไปอยู่ ในที่ที่สุขคติ อย่างที่ตั้งใจกันไว้”

จิ๊บ คีตภัทร “เสียดายค่ะ เขาผ่านอะไรมาเยอะ อยากให้เขาได้ไปอยู่ในที่ที่มีความสุข ที่ปลอดภัยที่สุดในใจเขา อยู่กับพ่อโส และพระเจ้า”

เจี๊ยบ ชมพูนุช “อยากบอกโมว่า ในช่วงเวลาที่ผ่านรู้ว่ามันเหนื่อยมาก เจี๊ยบก็เอาใจช่วยมาตลอด จนกระทั่งเราคลายกังวลได้ในหลายๆเรื่อง เรารู้สึกว่าน้องกลับมาเดินในถนนที่มันปกติ

แต่ว่าวันที่เขามีความสุขมันสั้นไปหน่อย ได้แต่คาดหวังว่าไม่ว่าน้องจะอยู่ที่ไหนในโลก ขอให้มันปลอดโปร่ง สบาย และหลังจากนี้ก็ขอให้สมหวังในทุกเรื่อง”

ไผ่ พาทิศ กล่าวต่อว่า “เราอยู่กับน้ำ กับเรือเยอะ ตอนรู้ข่าวว่าไม่เจอเป็นชั่วโมงมันก็ผิดปกติมากแล้ว ก็อวยพรให้ทุกอย่างผ่านไปด้วยดี แต่บอกตรงๆว่าเสียใจ เพื่อนเราไม่น่ามาเจออะไรแบบนี้

คิดในแง่ดีก็คือ ไปอยู่กับพ่อแล้ว ความสุขของเขา”

บิ๊ก ภุชิสสะ “รู้ข่าวครั้งแรก ภาวนาขอให้เพื่อนเรามีคนช่วย ไม่คิดว่าจะไปแล้ว”

น้ำ รพีภัทร “ชีวิตเขาเป็นนักสู้มาก ผ่านอะไรหนักๆ งาน ความรัก ครอบครัว การสูญเสีย วันนี้เขาไม่ต้องมาสัมผัสเรื่องเหล่านั้นแล้ว ไม่ต้องมาต่อสู้อะไรอีกแล้ว ถึงเวลาได้พักผ่อน ”

ซี ศิวัฒน์ ได้พูดปิดท้ายว่า “พี่ว่าโมมาเกิดบนโลกใบนี้ด้วยประสงค์บางอย่างของพระเจ้า พี่เชื่อว่าเขามาเพื่อสร้างความทรงจำ สร้างประวัติศาสตร์ ทั้งตอนมีและไม่มีชีวิต เราก็เสียดาย

ที่ไม่อยู่เคียงข้างโมในหลายเหตุการณ์ ภูมิใจและดีใจมากที่ได้รู้จักผู้หญิงคนนี้ คนที่มีความสุจริตในทุกเวลา ทุกมิติของชีวิต เชื่อว่าโมรับรู้ ไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง โมทำหน้าที่ของตัวเอง

ได้จบแล้ว เรายังคงรักและคิดถึงเสมอ จนกว่าจะได้เจอโมอีก”

และเหล่านักแสดงก็ได้ร้องเพลง จากนี้จนนิรันดร์ ให้ แตงโม – นิดา แล้วพวกเขาก็สัญญาที่จะติดต่อสื่อสารและพยายามจะเจอกันให้ได้ เพื่อที่จะไม่เสียดายทีหลังอีก