เกาะติดข่าวดาราก่อนใคร

กดติดตาม “ทีวีพูล”

banner

                คริส พีรวัส แสงโพธิรัตน์ นักแสดงหนุ่มฮอตที่โด่งดังมาจากซีรีส์วาย จนมีแฟนคลับติดตามไปทั่วเอเชีย ล่าสุดมาเปิดใจ

เผยเรื่องราวความรักแบบเจาะลึกถึงความล้มเหลวด้านความรัก จากสาเหตุของการที่ติดเพื่อนหนักมาก และเรื่องของการที่เป็นคน Negative

เมื่อต้องเจอกับปัญหารุมเร้า ซึ่งทั้งหมดนี้ยังไม่เคยพูดที่ไหนมาก่อน เล่าทุกความรู้สึกในรายการ WOODY FM

 

ถ้ามีแฟน คุณติดแฟนแค่ไหน ?

คริส : 5 เต็ม 10

จากความคลั่งรักคุณให้ 5 เต็ม 10 ทำไมแค่ครึ่งเดียว ?

คริส : ความล้มเหลวด้านความรักของผมในช่วงที่ผ่านมาพังเพราะ เราติดเพื่อนจริงๆ สมมุติว่านัดกินข้าวกับแฟนของเรา วันนั้นเป็นวันรวมตัวของเพื่อนซึ่งมันนานๆ ที

ผมจะเบี้ยวแฟน แล้วผมจะไปอยู่กับเพื่อนๆ ผม ซึ่งมันเป็นมาโดยตลอด เราล้มเหลวกับเรื่องพวกนี้

เราจะถูกแฟนพูดตลอดว่าอย่างเดียวเลยนะที่ฉันไม่ชอบเธอเลย เธอติดเพื่อนมาก ก็ตอบกลับไปว่าฉันก็ติดเธอนะ แล้วฉันไม่ให้เวลาเธอตรงไหน แต่สุดท้ายทุกคนเขาพูดกัน

แบบนี้ว่าผมติดเพื่อนครับ บางทีนัดแฟนก่อนด้วย แต่เพื่อนมาทีหลังนะ แต่วันนั้นมันนานๆ ที แล้วผมคิดว่ากินข้าวตรงนี้เดี๋ยวก็ได้กินแหล่ะ วันหลัง วันพรุ่งนี้ แต่กลุ่มนี้เดี๋ยวมัน

ก็ไปแล้วเมื่อไหร่จะได้นัดกันอีก เราก็จะมีความขอแคนเซิล

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

แฟนคลับช็อก!! “คริส พีรวัส” ประสบอุบัติเหตุรถคว่ำ!! ต้นสังกัดเผยอาการปลอดภัยดี

สาวน้อยเสียงใส ทำ “คริส พีรวัส” ชื่นชมว่าเพชรเม็ดงาม

จะเป็นแบบนี้ไปเรื่อยๆ ไหม ?

คริส : ไม่ครับ ผมว่าเดี่ยวนี้ช่วงนี้ก็ไม่ได้เป็นแล้ว ผมว่าด้วยอายุด้วย ตอนนี้คริสอายุ 27 อีก 3 ปีก็ 30 เราก็คิด จะมานั่งติดเพื่อนสำมะเลเทเมา เถลไถลทั้งวันก็ไม่ได้ครับ

เราก็จะเริ่มจัดลำดับของสำคัญใหม่ แต่ตอนนี้ก็ยังอาจจะไม่ใช่แฟนด้วย แต่จะเป็นครอบครัวก่อน

สมมุติว่าคุณมีแฟนคุณก็อาจจะไม่ค่อยให้ความสำคัญก่อนหน้านี้ เพื่อนมาก่อน แต่ถ้าวันนี้มีแฟนเราดูแลเขาแบบไหน ?

คริส : ผมอาจจะไม่ใช่ผู้ชายสายหวาน สายเทคแคร์แบบดูแลทุกอย่างแม้กระทั่งเปิดประตูรถให้ เธอต้องเป็นเจ้าหญิงของเรา ผมมีโมเมนต์แบบนั้นได้แต่ไม่บ่อย ไม่ใช่ตลอด

บางวันเธอเหนื่อยเราทำให้ได้

ชอบให้เขาบอกรักหรือเป็นคนบอกรัก ?

คริส : ผมเป็นคนชอบพูดคำว่ารักบ่อย พูดคำว่าเลิกบ่อยด้วยครับ เราเคยมีแฟนเด็กกว่าแข่งกันงี่เง่าทุกวัน

ใช้คำว่าเลิกแบบพร่ำเพรื่อไหม ?

คริส : ได้เลยนะครับ ผลเสียของมัน บางครั้งทะเลาะกันแล้วบอกเลิกในใจรู้แล้ว เดี๋ยวก็รู้พรุ่งนี้มาแล้ว มันมีทั้งข้อดีและข้อเสีย ข้อเสียคือคำว่าเลิกมันไม่มีค่าก็จริง

แต่ข้อดีของมันคือเลิกกันไม่ขาดหรอก ผมเคยปรึกษาเพื่อนเยอะมากบอกจะเลิกแล้ว สุดท้ายเพื่อนหอนทุกคนเลย

คริส : แฟนคลับที่อยู่กับคริสมาถึงทุกวันนี้ ส่วนใหญ่ก็เป็นแฟนคลับจาก SOTUS The Series เขาชื่อว่า พีรยา นะครับ คือแฟนคลับบ้านคู่ของ SOTUS The Series

พวกเขาอยู่ดูแลคริสมาตั้งแต่วันที่คริสยังไม่ได้อยู่ในแกรมมี่เลย เราเป็นฟรีแลนซ์ คือเราก็งงๆ ว่า เป็นศิลปินแล้ว มีแฟนคลับติดตามแล้ว ต้องทำยังไง เราไม่รู้ เราไม่ได้มีต้นแบบ

ให้เห็น ผมว่าเป็นสิ่งที่เกิดจากการที่เราคิดกันขึ้นมาเอง

ช่วงนั้นผมจำได้ว่าเรามีแฟนคลับอยู่แค่หลักสิบยังไม่ถึงร้อยเลย วันเกิดคริสมีอยู่ 81 คน คริสจำได้จากรายชื่อที่ลงนะครับ พวกเขาอยู่กับคริสมาตอนนั้นเหมือนเพื่อนกันมาก

ไม่ได้มีความรู้สึกถึงความห่างของศิลปินกับแฟนคลับเลย คือผมรู้สึกว่าความใกล้ชิดตรงนั้นก่อนที่ผมจะได้เข้ามาอยู่ในค่ายมันเป็นความสัมพันธ์ที่ผมไม่อาจลืมเลยจริงๆ ผมเหงา

ผมไม่เคยอยู่โดดเดี่ยวเลย เขาอยู่กับผมตลอด

สิ่งที่เราได้รับจากแฟนๆ ตลอดที่มาคืออะไร ?

คริส : ความอบอุ่น การให้ แล้วก็แฟนๆ สอนให้เราเป็นผู้ใหญ่มากขึ้นด้วย เพราะการทำงานในวงการบันเทิงต้องบอกว่ามันมีทั้งพลังบวกและพลังลบ ซึ่งทั้งพลังงานบวก

และลบมันออกมาได้หมดจากคนทุกกลุ่ม บางครั้งออกมาจากแฟนคลับเราเองก็มี

รักแฟนคลับมากขนาดไหน ?

คริส : ผมรักของผมมากนะ แบบว่าเขาดูแลผม แล้วก็ไม่ใช่แค่ผม เขาดูแลคนรอบข้างผมด้วย ผมจะประทับใจมากถ้าแฟนคลับดูแลเพื่อนๆ ผมด้วย ไม่ใช่แค่เดินชนเพื่อนผม

เพื่อมาหาผมอะไรแบบนี้ แต่เขาก็จะมีความทักทาย ดูแลเพื่อนๆ ผมอย่างดี แล้วก็อาม้าผมมีโรคประจำตัวหลายอย่าง แฟนคลับผมบางคนเป็นคุณหมอ เป็นพยาบาล พอเขารับรู้เรื่อง

ผมบอกเขาตลอดนะว่าอย่าพยายามติดต่อกับคุณพ่อคุณแม่ผมส่วนตัว แต่มันห้ามความเป็นห่วงของเขาไม่ได้ เขาไม่ได้มาเพื่ออยากที่จะเสพโมเมนต์อะไร เขามาเพื่อจะบอกว่า

ให้ช่วยอะไรไหมแค่นั้นเลยครับ

คุณเป็นคนที่คิดไปทางบวกหรือลบมากกว่ากัน ?

คริส : ผมเคยบอกไว้ครับว่าเป็นคน Negative แต่พอมานั่งคิดกับตัวเองตอนนี้ ผมว่าบางครั้งคนที่คิดว่าตัวเองเป็นคน Negative Thinking เขาอาจจะเคยเป็นคนที่ Positive มาก

แบบโลกสวยแบบทุ่งลาเวนเดอร์มาก่อนก็มีครับ ผมยกตัวอย่างให้เป็นตัวผมเองดีกว่า ผมรู้สึกว่าเมื่อก่อนผมเป็นคน Positive มาก ความสุขของผมผันแปรตามคนรอบข้าง

เราอยากจะคบกับใคร อยากจะมีเพื่อนเพิ่มที่ไหน ผมก็จะผันแปรตามคนรอบข้าง ว่าเพื่อนเราโอเคกับคนนี้ไหม ถ้าเพื่อนไม่โอเคไปเลย

แต่บางครั้งโลกจะสอนให้เรารู้สึกว่าการเป็นตัวของตัวเองก็สำคัญ เพราะบางครั้งเราเอาทุกๆ อย่างไปผูกกับคนรอบข้าง เราไม่รู้เลยเลยว่าคนรอบข้างคิดยังไงกับเราจริงๆ

เข้ามาอยู่ในวงการบันเทิงด้วยครับ บางครั้งเราอยากพยายามที่จะเหมือนเดิม ก่อนที่เราจะเข้ามาในวงการบันเทิง ผมจะเหมือนเดิมให้ได้ จะไม่มีเพื่อนคนไหนพูดว่าเราเปลี่ยนไป

แต่เราก็จะลืมไปครับว่ามันมีตัวผันแปรอยู่ คนรอบข้างอาจจะไม่ได้มองเราเหมือนเดิมแล้วก็ได้ครับ เพราะฉะนั้นเราต้องดูรอบๆ ข้างด้วยว่าเพื่อนๆ ของเรายังเหมือนเดิมกับเราอยู่หรือเปล่า

คิดว่าเราควรจะต้องเป็นตัวของตัวเองก่อนว่าจริงๆ แล้วเราเป็นคนยังไง เรามีความเผื่อแพร่แค่ไหน เรามีความใจร้ายแค่ไหน แต่บางครั้งเราเกรงใจกลัวเพื่อนรู้สึกไม่ดีกับเรา

จนมันทำให้ผมเป็นคน Negative เมื่อเจอปัญหาครับ การทะเลาะ ปัญหาต่างๆ

ในด้านการทำงานบริหารเวลาอย่างไร?

คริส : ณ ตอนนี้คริสไม่รู้ว่าการวางแผนเวลาถูกหรือเปล่านะครับ แต่ผมคิดว่าตอนนี้ผมไม่อยากปล่อยให้ตัวเองว่าง ผู้จัดการเขาก็จัดสรรมาให้ว่า มีตารางอะไรยังไงบ้าง

ซึ่งตอนนี้ก็จะมีธุรกิจของคริสข้างนอก คริสก็จะแมตช์ก่อนเลยเอาเวลาว่างของตัวเองไว้ที่หลังสุด คือแมตช์งานในวงการและงานข้างนอกให้ลงในตาราง ช่องในว่างวันนั้น

ละครับค่อยพักผ่อน ซึ่งเราก็ไม่รู้ว่าถูกหรือผิด แต่ผมรู้สึกว่าการพักผ่อนผมไม่ค่อยดี ทำงานแทบทุกวันเลยครับ