เกาะติดข่าวดาราก่อนใคร

กดติดตาม “ทีวีพูล”

banner

แม่ยัน 24 พ.ค. จัดพิธีฌาปนกิจ ทนายเดชา ไม่กังวลอัยการสั่งสอบเพิ่มคดีแตงโม ..?

#ข่าวที่เกี่ยวข้อง

“ทนายเดชา” เผย วันนี้ทุกคนจะได้ตาสว่าง เพราะเตรียมหลักฐานสิ่งนี้มาแล้ว
เตรียมฟ้อง!! ทนายเดชา เตรียมฟ้อง ทนายกฤษณะ พาดพิงให้เสียหาย เตือนเดียวดายหน้าบัลลังก์..?

“ทนายเดชา” แถลงขอบคุณอัยการสั่งตำรวจสอบสวนเพิ่ม 20 ประเด็นคดีการเสียชีวิตของดาราสาว “แตงโม-นิดา” เป็นการถ่วงดุลการทำงานตำรวจ ชี้ทำให้สำนวนรัดกุมยิ่งขึ้น เพื่อเอาผิดผู้ต้องหา ส่วนแม่แตงโม ยืนยัน 24 พ.ค.นี้ จัดพิธีฌาปนกิจตามกำหนดการเดิม

เมื่อเวลา 12.30 น. ที่สำนักงานทนายคลายทุกข์ นายเดชา กิตติวิทยานันท์ ทนายความประจำคดีการเสียชีวิตของ น.ส.นิดา พัชรวีระพงษ์ หรือแตงโม แถลงความคืบหน้า กรณีพนักงานอัยการจังหวัดนนทบุรี มีคำสั่งให้พนักงานสอบสวนคดีการเสียชีวิตของแตงโม สอบสวนเพิ่มเติม 20 ประเด็น เนื่องจากเห็นว่าสำนวนที่ส่งมายังไม่สมบูรณ์ และไม่รัดกุมเพียงพอที่จะส่งฟ้องผู้ต้องหาได้

นายเดชา เปิดเผยว่า กรณีดังกล่าวเท่าที่ตนทราบในทางลับ สาเหตุเกิดจากสำนวนของตำรวจยังไม่สมบูรณ์ เนื่องจากมีบางกรณีที่ไม่ชัดเจน อาจจะเรื่อง จุดพลัดตกเรือที่ชัดเจน การทำร้ายร่างกาย การกระทำโดยประมาท เพื่อให้สำนวนมีความแน่นหนา โดยสำนักงานอัยการสูงสุดตั้งกรรมการขึ้นมา เพื่อดำเนินการในเรื่องนี้ โดย 20 ประเด็นดังกล่าว คาดว่าเป็นประเด็นทำลายหลักฐาน ว่ามีการทำลายอย่างไร การตรวจแอลกอฮอล์ เส้นผมต่างๆ เพื่อให้ทุกอย่างชัดเจน

ทั้งนี้ตำรวจทำคดีเพียงพอแล้ว แต่เมื่ออัยการมีข้อสงสัย สามารถสั่งให้สอบจนสิ้นข้อสงสัยได้ เพื่อไม่ให้ศาลยกฟ้อง การสอบเพิ่มไม่มีกรอบระยะเวลา แต่พนักงานสอบสวนต้องเร่งกระบวนการ ตนไม่กังวลใจแต่อย่างใด และขอบคุณพนักงานอัยการที่คอยตรวจสอบ รวมถึงถ่วงดุลการทำงานของตำรวจ เชื่อว่าสามารถเอาผิดผู้กระทำผิดได้แน่นอน คาดว่าอีกประมาณ 1 สัปดาห์ อาจได้ทราบว่าต้องสอบอะไรใครเพิ่ม 20 ประเด็น ถือว่าเยอะหากเทียบกับคดีอื่นๆ ที่ต้องสอบมากขนาดนี้ เพราะมีผู้เกี่ยวข้องจำนวนมาก แต่ทางอัยการคงไม่เรียกกลุ่มคนที่ออกมาแสดงความคิดเห็นอย่าง นายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรคไทยศรีวิไลย์ หรือนายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม เข้าไปสอบปากคำเพิ่ม เนื่องจากไม่ใช่คนที่เกี่ยวข้องในคดี ประกอบกับหากทางอัยการเรียกคงไม่กล้าไป เนื่องจากถ้าให้ความเท็จกับทางอัยการอาจมีความผิด

นายเดชา กล่าวอีกว่า การที่อัยการสั่งให้สอบเพิ่ม ไม่ใช่การรื้อทำคดีใหม่ แต่เป็นการสอบเพิ่มในคดี ซึ่งไม่ได้อยู่เหนือความคาดหมายของตน เพราะทางตำรวจมีข้อจำกัดในการทำงาน และทำเต็มที่แล้ว ส่วนที่สื่อสังคมออนไลน์ ใช้คำว่าตีกลับสำนวน ขออธิบายว่า การตีกลับ คือ ส่งสำนวนคืน แต่ในครั้งนี้ สำนวนยังอยู่ที่อัยการ ตำรวจเพียงสอบเพิ่มเท่านั้น ส่วนเรื่องการชันสูตร คิดว่าอัยการคงไม่สั่งให้ชันสูตรเพิ่ม เพราะมีการชันสูตรถึง 2 ครั้งแล้ว ส่วนจำนวนบาดแผลอาจมีการสอบเพิ่ม ซึ่งแต่ละที่ทำการชันสูตรมีวิธีการนับจำนวนบาดแผลต่างกัน ไม่ใช่เรื่องที่มีนัยสำคัญต่อรูปคดีแต่อย่างใด เนื่องจากความผิดฐานประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย สิ่งสำคัญคือการกระทำประมาทอย่างไร และส่งผลให้ผู้อื่นถึงแก่ความตายย่างไร ส่วนประเด็นตกเรือหัวหรือท้ายเรือ ไม่ใช่สาระสำคัญ เพราะสิ่งที่เกิดขึ้นหลังจากแตงโมเสียชีวิตนั้น ไม่มีผลต่อรูปคดีแต่อย่างใด

นายเดชา กล่าวอีกว่า ส่วนกรณีหลักฐานของ นายอัจฉริยะ ตนยังไม่ทราบว่าเป็นหลักฐานอะไร หากมีจริงก็ดี แต่หากไม่มีจริง ต้องรับผิดชอบ ส่วนกรณีที่มีกระแสว่ามีผู้ขโมยศพแตงโมไป ตนเคยเห็นจากรับชมภาพยนตร์ต่างประเทศ แต่ไม่เคยได้พบในชีวิตจริง และไม่เชื่อว่าจะมีการขโมยศพ แต่หากมีหลักฐานสามารถแจ้งมาทางตนได้ อย่านำไปลงยูทูบเลย เท่านี้คนติดตามมากพอแล้ว ส่วนทาง นางภนิดา ศิระยุทธโยธิน แม่แตงโม ขอบคุณทางอัยการเช่นกัน เพื่อให้เรื่องนี้กระจ่างชัดเจน ซึ่งทางนางภนิดายืนยันว่าจะเผาร่างแตงโมตามกำหนดการเดิมในวันที่ 24 พ.ค.นี้ ขณะนี้ตนจะมอบหมายให้ทนายความไปแจ้งความนายอัจฉริยะที่ สน.โคกคราม เนื่องจากระบุในรายการโหนกระแส ว่า ตนใช้รถยนต์เถื่อนทะเบียนปลอม และแพ้คดีความ 6 คดี รวมถึงจากนี้จะแจ้งความดำเนินคดี ทนายกฤษณะ ศรีบุญพิมพ์สวย เรื่องเปิดเผยความลับลูกความ ซึ่งส่งผลให้ตนเสียหาย และดาราอีกคน รวมถึงนายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย อีกด้วย ประเด็นที่มีการอ้างว่านายอัจฉริยะถูกลอบสังหาร ตนคิดว่าไม่ใช่เรื่องจริง และไม่ทราบว่าต้องการอะไร หากสิ่งที่กล่าวอ้างเป็นเรื่องจริงควรแจ้งความ

นายเดชา กล่าวอีกว่า การที่นายอัจฉริยะ ยื่นเรื่องให้กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ว่า เป็นการฆาตกรรมอำพราง คิดว่าทางดีเอสไอคงไม่รับ เพราะการสอบสวนเสร็จสิ้นไปแล้ว เรื่องที่ร้องเรียน หากไม่เป็นความจริง เป็นการแจ้งความเท็จต่อเจ้าพนักงาน นอกจากนี้ สำหรับ 20 ประเด็นที่ตำรวจต้องสอบเพิ่ม คงไม่สามารถเปลี่ยนจากการกระทำโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย เป็นการฆาตกรรมหรือการทำร้ายได้ แต่ทำให้คดีมีความรัดกุมมากขึ้น