จากกรณีที่เกิดดราม่างานแต่งสุดเดือดที่ จ.เลย โดยญาติฝั่งเจ้าบ่าวและเจ้าสาว ก่อเหตุทะเลาะวิวาทตีกันกลางงาน เนื่องจากไม่พอใจเรื่องที่ฝั่งเจ้าบ่าวเบี้ยวค่าสินสอด ตอนแรกตกลงกันไว้ที่ 99,999 บาท แต่กลับมาจ่ายจริงแค่10,000 บาท ทำเอาเสียเงิน เสียหน้า เสียความรู้สึกมาก
ล่าสุด วันที่ 8 พฤษภาคม 2565 ผู้สื่อข่าวเดินทางไปยังสถานที่เกิดเหตุ ซึ่งอยู่ที่ ต.หนองหญ้าปล้อง อ.วังสะพุงจ.เลย พบว่า ในบ้านเจ้าสาวยังมีจานชาม ของใช้ที่จัดในงานแต่งถูกตั้งทิ้งไว้ เก็บไม่หมด มีซองจดหมายสีชมพูที่ใส่การ์ดถูกทิ้งเอาไว้ด้วย
นางแดง (นามสมมติ) แม่เจ้าสาว เล่าว่า ลูกสาวตนคบกับนายตูมตามในช่วงเดือนพฤศจิกายน 2564 ก่อนที่ฝ่ายชายจะมาขอหมั้นหลังจากคบกันได้ 1 เดือน คือ วันที่ 6 ธันวาคม 2564 และเริ่มมีการคุยรายละเอียดของงาน โดยจะมีพิธีแต่งงานวันที่ 30 มีนาคมที่ผ่านมา แต่เนื่องจากสถานการณ์โควิดทำให้งานแต่งเลื่อนมาเป็นวันที่ 6 พฤษภาคมยิ่งใกล้ถึงงานแต่ง ลูกสาวดีใจมากที่ฝ่ายชายจะมาสู่ขอ
สำหรับค่าสินสอด เธอเรียกเอาไว้ 1 แสนบาท แต่ฝ่ายชายต่อรองเป็น 99,999 บาท พร้อมทองอีก 2 บาท อ้างว่าเป็นเลขสวยมงคล ชีวิตจะได้ก้าวไปข้างหน้า แต่พอถึงวันแต่งจริง ๆ ทุกอย่างกลับไม่เป็นไปตามที่คิด
เวลาตามฤกษ์ที่เจ้าบ่าวนัดกันไว้คือ 7 โมงเช้า ครอบครัวตนก็เชิญชาวบ้านและแขกเกือบ 100 คน แต่พอถึงเวลาเจ้าบ่าวก็ไม่มา พยายามโทรศัพท์ติดต่อ เจ้าบ่าวก็อ้างว่ากำลังออกไป พอโทรศัพท์หาซ้ำอีกครั้ง เจ้าบ่าวไม่รับสาย จนแขกในงานเริ่มคุยกันว่า เจ้าบ่าวจะเทงานแต่งหรือเปล่า
สุดท้าย เจ้าบ่าวมาตอน 11 โมงครึ่ง พร้อมขบวนขันหมาก มีพ่อ ยาย และเพื่อนไม่ถึง 5 คนมาที่งาน ลูกสาวตนดีใจมาก จึงเริ่มพิธีต่อคือ ประตูเงินประตูทอง เจ้าบ่าวต้องใส่ซองเพื่อผ่านประตูไปหาเจ้าสาว ปรากฏว่าเจ้าบ่าวมีแต่ซองเปล่า บอกว่าสินสอดยังไม่มี ต้องรอแม่มาก่อน
แม่เจ้าบ่าวมาถึงเวลา 12.00 น. แต่แม่กลับบอกว่า ไม่รู้ว่าลูกชายแต่งงาน ถ้าต้องแต่งจริง ๆ มีสินสอดแค่ 1 หมื่นบาทเท่านั้น จะเอาไหม ทำให้ญาติพี่น้องเจ้าสาวอึ้ง โห่ไล่ด้วยความไม่พอใจ แต่ประโยคที่ทำให้สองฝ่ายหันมาตีกัน นั่นคือ ญาติเจ้าสาวพูดว่า “ถ้าเอามาแค่หมื่นเดียวไม่เอาหรอก จบไปเลย” ส่วนญาติเจ้าบ่าวก็บอกว่า “พอ ๆ กูไม่เอาแล้ว กลับเลย ๆ” พร้อมกับท้าตีท้าต่อยญาติฝ่ายหญิง จนญาติฝ่ายหญิงจะไปรุมกระทืบเจ้าบ่าว
นางแดง กล่าวอีกว่า ตนเสียใจมากที่เจ้าบ่าวทำกับลูกสาวแบบนี้ อยากให้เจ้าบ่าวชดใช้ในสิ่งที่ทำ เพราะงานแต่งทั้งหมด พวกตนเสียเงินไป 65,000 บาท ทุกอย่างพังไม่เหลือ ถ้าหากทำแบบนี้ ก็ไม่ต้องมารักลูกสาวตนอีกเลย
ส่วนตอนนี้ ลูกสาวตนไม่กล้าออกไปเจอหน้าใคร หนีไปอยู่ห้องเช่าคนเดียว ร้องไห้ไม่หยุด ไม่คิดว่าฝ่ายชายจะทำกับครอบครัวเธอแบบนี้ การโวยวายในงานแต่งก็ดูไม่ให้เกียรติกัน
ล่าสุดคนที่เป็นญาติเจ้าสาว มีการโพสต์เพิ่มเติมว่า ตอนนี้เจ้าสาวหนีไปอยู่กับฝ่ายชายแล้ว หากใครที่กำลังสงสารเจ้าสาวอยู่ ตอนนี้ไม่ต้องสงสารแล้ว เจ้าสาวหลอกที่บ้านว่าจะไปทำงาน แต่สุดท้ายคือ หนีไปทำพาสปอร์ตไปอยู่ญี่ปุ่นส่วนหนี้สินจากงานแต่งก็ไม่รับผิดชอบ
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
แจม เนโกะจัมพ์ ปิดฉากวิวาห์ รัก7ปี แจมขอเป็นคนจากไป สาเหตุเลิก ก่อนแต่ง2เดือน
สุดซึ้ง “พ่อโต๋ “น้ำตาแตก เข้าทำพิธีวิวาห์ให้ลูกชายสุดที่รัก