เปิดหัวใจของผู้ชายที่ชื่อ ไนกี้ นิธิดล กับความรักที่เจ็บซ้ำๆ

เมื่อ ไนกี้ นิธิดล มาเป็นแขกรับเชิญคนพิเศษในรายการ Club Friday Show ผลิตโดย CHANGE2561 เจ้าตัวก็เล่าเรื่องชีวิตของตัวเองแบบหมดเปลือกตั้งแต่ช่วงเวลาที่ยังคงเป็นวัยรุ่นที่มีแต่เรื่องราว เพราะด้วยความเป็นคนอารมณ์ร้อนและความรักที่ผ่านมาคือที่เจ็บซ้ำๆแบบเดิมๆมาตลอด จนหาทำตอบไม่ได้ว่าตัวเองทำอะไรผิด พร้อมกับเผยถึงที่มาที่ไป ฉายาสายถอด ที่ทำให้ประสบความสำเร็จให้ครอบครัวได้ภูมิใจ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

เครียดหนัก”ใบเตย พรพจี” ขอโบกมือลาเพราะเรื่อง…

“ใบเตย อาร์สยาม” เซอร์ไพรส์วันเกิดให้กับสามี แค่ชุดก็กินขาดแล้ว!!

ถาม ตอนที่แนะนำ ไนกี้ ว่าเป็นผู้ชายสายถอดนี่คือยังไงเอ่ย
ไนกี้ นิธิดล : คือต้องบอกเลยนะครับว่า เมื่อก่อนผมเล่นละครมาก็เป็นพีเรียดเป็นคุณชายเรียบร้อยแสนดี แต่ได้รับฉายานี้ต้องพูดตรงๆนะครับ พี่ฉอด จริงๆครับ (ยกมือไหว้พี่ฉอด) เพราะว่าผมเล่นละครเรื่องแรกเรื่อง ป่ากามเทพ พี่ฉอด ก็จับผมถอดแล้วก็เล่นเป็นอีกบทบาทหนึ่ง ตั้งแต่นั้นคนก็จดจำเราเหมือนกับว้าว !! อ้า ปากค้างไปเลยครับว่าเอ้า !! ไนกี้ เล่นแบบถอดอุ้ย มันอย่างนี้เลยเหรอ มันอย่างนั้นเลยเหรอ ผมก็ได้ฉายานี้ติดตัวมาเลยครับ ตั้งแต่เรื่องแรกเพราะแต่ก่อนผมไม่ได้ถอดเลย ไม่แล้วก็บางเรื่องผมก็ไม่ค่อยได้ถอด แต่คนไม่จำจริงๆผมก็เล่นหลายเรื่องก็คนก็ไม่จำนะครับ ใส่เสื้อคนไม่จำ

ถาม พี่ฉอด เป็นคนตัดริบบิ้นหลายๆสิ่งมากตั้งแต่ พระเอกสายถอด สายวาย
ไนกี้ นิธิดล : สายวายก็ พี่ฉอด ครับ เพราะว่า Club Friday 9 ผมจำได้เลยเล่นกับพี่บอย พิษณุ คนข้างบ้าน เป็นครั้งแรกก็ไม่รู้อย่างไร พอเล่นไปก็กลายเป็นภาพจำแล้วคนก็พีกมาก แบบถอดเสื้อรดน้ำต้นไม้ ปลูกต้นไม้ คือการเล่นวายครั้งแรกในชีวิตของผมคนก็จำอีก

ถาม ต้องถาม พี่ฉอด แล้วเพราะว่าเรื่องนี้ พี่ฉอด เขาเป็นคุณชายมาทั้งชีวิตของเขา พี่ฉอด ไปคิดอย่างไรว่าเขาต้องถอด หรือว่าเขาต้องสายวาย
พี่ฉอด : มันโชว์ได้ หุ่นเขาดีเขาโชว์ได้

ถาม แล้วในส่วนของสายวาย ทำไมเขาต้องเลิฟซีนกับ บอย พิษณุ
พี่ฉอด : คือไม่รู้เพราะเป็นคนที่ชอบเปลี่ยนคน บางทีนักแสดงค่ะ ต้องบอกว่านักแสดงสำคัญที่บทแล้วก็สำคัญที่โอกาสว่าจะมีคนหยิบยื่นโอกาสดีๆใหม่ๆแปลกๆที่มันท้าทายให้ไหมแล้วก็แล้วแต่ด้วยนะคะ เพราะนักแสดงบางคนเขาก็ไม่อยากรับสิ่งนี้ก็มีเขาก็อยากเป็นแบบเดิมๆของเขาก็มี แต่ ไนกี้ เป็นคนที่แบบยื่นอะไรไปให้ก็ทำ
ไนกี้ นิธิดล : ผมต้องขอบคุณ พี่ฉอด มากๆครับ เพราะว่าหลายๆคนได้เห็นผมจริงๆได้เห็นผมหลากหลายมุมจริงๆเพราะตอนนี้มันกลายเป็นว่าผมสามารถไปเล่นอะไรก็ได้ ทุกคนเลยเห็นผมงานว่าเล่นร้ายก็ได้เล่นดีก็ได้เล่นวายก็ได้มันก็เลยมีโอกาสให้เราทำงานได้ค่อนข้างเยอะ

ถาม ย้อนกลับมาถามเรื่องความรักกันบ้าง เพราะความรักของ ไนกี้ แต่ละครั้งเป็นอย่างไรบ้าง
ไนกี้ นิธิดล : เราเป็นคนรักใครแล้วเรารักเขามากมีคนมาบอกอะไรเราก็ไม่เชื่อแล้วก็มองว่าไม่ใช่ ถ้าเราไม่ได้เห็นกับตาตัวเองเราจะไม่เชื่อใครเพื่อนสนิทก็เตือนจนวันหนึ่งผมได้โทรไปตอนที่เขาหลังเลิกงานตอนกลางคืนครับ ก็โทรไปพอโทรไปก็เป็นเสียงผู้ชายรับพอดี พอเป็นเสียงผู้ชายรับเขาก็ถามผมว่า “โทรมาทำไม” ผมก็บอกว่า “อ้าว !! ผมก็โทรหาแฟนผมไง” เขาก็บอกว่า “แฟนอะไรเนี่ยเมียเขา” ผมแบบโอ้โฮ !! แบบตัวชาเริ่มไปไม่ถูกครับ เพิ่งรู้ว่าอาการตัวชา หน้าชา มือไม้เย็นมันเป็นอย่างไรที่เราคุยกับคนที่เรารู้สึกว่ามันเกิดเหตุการณ์แบบนี้ได้อย่างไรแล้วสุดท้ายเขาก็บอกว่าเขาเป็นอะไรกับคนนี้ตั้งนานแล้ว ผมกลายเป็นว่าแล้วทุกอย่างที่มันเกิดขึ้นมันคืออะไร

ถาม แล้วได้ถามแฟนเราไหม
ไนกี้ นิธิดล : ตอนหลังได้ถามครับ เขาก็บอกเขายังโกหกเราอยู่ เขาก็บอกว่าญาติเนี่ยญาติไม่ใช่อะไรเลย มันไม่ใช่ญาติครับ คือเราคุยกับเขามาพักใหญ่มากแล้ว เขาบอกว่าเนี่ยเขาชอบโกหกไงมันชอบไปหลอกคนอื่น คบกับผมมาตั้งนานแล้ว เป็นเมียผม เราคุยกับเขาจนเรารู้สึกว่าทำไมเขายังจะกล้าที่จะหลอกต่ออีกทำไมเขายังกล้าบอกว่านี่คือ ญาติ ผมเลยเก็บทุกอย่างตรงนี้ไปถามเพื่อนสนิทผมที่เขาเคยเห็นว่าเขานั่งรถไปกับผู้ชายเพื่อนผมบอกว่าเห็นมาตั้งนานแล้ว แล้วคนนี้ไม่ใช่ญาติแน่นอนเพราะว่าเพื่อนผมก็อยู่แถวๆย่านนั้นพอดี แต่ไม่รู้จะพูดกับผมอย่างไรเพราะว่าตอนนั้นผมไม่ฟัง ผมไม่เชื่อแม้แต่เพื่อนสนิทมาบอก เพราะเราเชื่อผู้หญิงจนสุดท้าย เขาก็มาตามง้อครับแบบว่าไม่มีอะไรจริงๆนะญาติจริงๆก็ยังยืนยันคำเดิม ยังยืนยันคำเดิม ผมเลยบอกว่าเลิกโกหกเราสักทีเถอะ คือ มันไม่ใช่แล้วความรู้สึกมันไม่ใช่เธอมาโกหกเราอีกทำไมจนสุดท้ายผมคือฝ่ายที่เลิกคุยกับเขาไปเอง นั่นคือ อกหักครั้งแรกของผมเลยครับ ทำให้ผมรู้สึกแบบเศร้า มันไปต่อไม่ถูก จนไม่รู้ต้องทำอย่างไรจนถึงต้องเอามือไปชกกำแพงจนรู้ว่ามันเจ็บมากเลยทำให้เป็นบทเรียนเลยว่าไม่มีใครเจ็บเท่าตัวเรา เราทำตัวเอง ถ้าเราไม่ออกมาจากตรงนั้นก็ยังเจ็บอยู่อย่างนั้นเพราะมันไปไม่เป็นจริงๆ ก็ใช้เวลารักษาแผลใจอยู่นานพอสมควรเลยครับ เพราะเราไม่รู้ว่าจะออกจากความรู้สึกนั้นอย่างไร มันเหมือนหลอนครับ ทำไมเขาถึงมาหลอกเรา ทำไมเอาความรักมาเล่นตลกกับเราแบบนี้

ถาม และอีกความรักครั้งหนึ่ง เห็นว่าผู้หญิงคนนี้เคยโกหกเราว่าท้องทำไมมันมีเหตุการณ์อะไรที่เกิดขึ้น
ไนกี้ นิธิดล : มันอาจจะเป็นช่วงที่เราเริ่มรู้สึกว่ามันอาจจะไปด้วยกันต่อไม่ได้ครับ แล้วเขาก็อาจจะอยากที่จะรั้งเราไว้หรืออะไรอย่างนี้ ก็อ้างเรื่องของว่าท้องกับเราครับ แล้วก็ตอนนั้นเรารู้สึกว่ามันเป็นไปไม่ได้ครับ เพราะว่ามันก็มีการป้องกันตลอด แต่ว่าผมก็มองว่าถ้าไปตรวจถ้ามันใช่เป็นของผมผมก็รับผิดชอบแต่สุดท้ายเขาก็ไม่จบไม่ยอมไม่นู้นไม่นี่ จนโทรมาราวีทางพ่อกับแม่เราเพราะเขาก็โทรเข้าไปถึงหาเบอร์ที่บ้านโทรเข้าไปถึงคุณพ่อคุณแม่แล้วก็เลยกลายเป็นเรื่องใหญ่เลย คุณพ่อคุณแม่อ้าว … อย่างไรเนี่ยไปทำอะไรอย่างนี้ เขาก็เรียกคุยเลยว่าผมมั่นใจไหมทำอะไรลงไปบ้างแล้วสุดท้ายผมก็มั่นใจว่าเราไม่ได้นี่จริงๆและเราก็บอกกับฝ่ายหญิงไปว่าให้ไปตรวจก็ได้นะ ไปเช็คเลยพร้อมที่จะรับผิดชอบแต่ว่าสุดท้ายเขาก็ไม่ยอมไปแล้วสุดท้ายเขาก็มายอมรับว่าเขาแต่งเรื่องขึ้นมามันก็แทนที่จะจบกันด้วยดีก็กลายเป็นว่าเป็นแบบนี้ไม่ค่อยดีสักเท่าไหร่ครับ

ถาม ซึ่งจริงๆแล้วเป็นคนที่บุคลิกรูปร่างหน้าตาแต่ความในในแต่ละครั้งมันจะต้องมีเริ่มต้นแล้วเดี๋ยวมันก็จบจนกระทั่งมาถึงคนต่อไป
ไนกี้ นิธิดล : จนกระทั่งมาถึงคนต่อไปก็คนนี้ก็มองว่าอดีตทุกอย่างที่ผ่านมามันเชื่อว่าทุกอย่างมันจะไม่เกิดขึ้นกับเราแล้วคนนี้เราก็มั่นใจว่า 100 เปอร์เซ็นต์เต็มที่ คือ เป็นคนเจ็บแล้วลุกแล้วพร้อมที่จะมุ่งไปข้างหน้าเชื่อว่าคนนี้แหละที่สุดของเราแล้วจนคบกันไปกันมามันก็ดูราบรื่นดีนะครับ ดูมีความสุขดีเพราะว่ามันมีโมเมนต์หลายอย่างที่เราทำเพื่อเขาเยอะ อย่างบางทีน้ำท่วมผมก็แบกเขาที่จะลุยน้ำท่วมออกมาหรืออะไรอย่างนี้ ผมแบบทำทุกอย่าง เขาเรียนเราก็ไปนั่งรอนอนรออยู่หน้าห้องที่เขาเรียนผมก็ทำทุกอย่างไปรับเทคแคร์ไปรับ ไปส่งสุดท้ายมันก็มีบ้างครับคนเรารักกันมันก็จะมีช่วงที่แบบว่าทะเลาะกัน ก็เริ่มมีทะเลาะกันบ้างอะไรบ้างผมก็คิดว่าปกติของชีวิตคู่ ชีวิตความรักมันก็ต้องมีบ้างแต่มันไม่ใช่ครับ พอสุดท้ายผมก็ไม่เข้าใจว่าเขานึกอย่างไรนะครับ ก็พี่สาวผมเนี่ยพอเราทำงานมากขึ้นเราก็ไม่ได้เช็กไม่ได้อะไรก็เชื่อว่าไว้ใจเขาพี่สาวผมบอกว่าเห็นแฟนผมคนนี้ใส่เสื้อคู่เดินกับผู้ชายอีกคนผมแบบช็อกเลยมันดูเป็นภาพซ้ำมากเลยครับพี่

ถาม ณ วันนั้นเราบอกว่าเป็นเพื่อนกันในชีวิตจริงเราเป็นเพื่อนกับเขาได้ไหม
ไนกี้ นิธิดล : ผมก็ปรารถนาดีกับเขาเสมอนะครับ ผมก็มองว่าคำว่าเป็นเพื่อนที่ดีที่สุด ผมมองว่าถ้าวันหนึ่งมันเกิดอะไร หรือว่าเขาต้องการขอความช่วยเหลือผมก็ยังช่วยเขาด้วยใจจริงๆ แต่ผมก็แค่แบบตัดเขาออกไปลืมเขาไปเลยแบบว่าทำเป็นเราไม่รู้จักกันมันยากมากครับ ผมรู้สึกแค่ว่าอย่างน้อยเราก็ยังเป็นคำว่าเพื่อน เพื่อนที่ดีต่อกันก็ยังโอเค อย่างน้อยเราก็ยังที่จะช่วยเหลือเขาได้อยู่ครับ

ถาม เวลาที่เรากลับมานั่งคิดทบทวนกับตัวเองถึงสิ่งที่ผ่านๆมาเราเคยรู้สึกบ้างไหมว่าเราผิดพลาดตรงไหน หรือเราทำอะไรพลาดไป หรือทำไมเราถึงต้องเจอความรักแบบนี้ครั้งแล้วครั้งเล่า ไนกี้ เคยคิดแบบนี้กับตัวไหมและมีคำตอบให้กับตัวเองไหม
ไนกี้ นิธิดล : เคยคิดตลอดเลยครับ พี่ฉอด แต่เราก็ไม่ได้มีคำตอบให้กับตัวเองเพราะเราแค่รู้สึกว่ามันก็เป็นคำถามซ้ำๆนะครับ ว่าผมทำอะไรผิดเหรอหรือผมไม่โรแมนติกเหรอ อาจจะเพราะว่าบางครั้งผมอาจจะไม่ได้โรแมนติกมาก

ถาม คือ บางทีเราจะพยายามหาคำตอบบางครั้งก็ไม่ได้มีคำตอบอะไรชัดเจนหรอกมันก็แค่ความไม่พอดีกัน สมมุติ ไนกี้ บอกว่าไม่โรแมนติกเลยแต่ถ้าเราได้เจอคนที่รักเรา และยอมรับในความน่ารักบางอย่างของเราแม้ว่าคำว่าโรแมนติกไม่จำเป็นต้องแปลว่าต้องสร้างซีนเซอร์ไพรส์มหัศจรรย์ แต่เราก็ดูแลใส่ใจเขานิ บางทีมันอาจจะแค่ความไม่พอดีของแต่ละคนมากกว่าด้วย เพียงแต่ว่าบางคนจ้องแต่จะถามฉันผิดอะไรๆแค่บางทีความรักมันเปลี่ยนไปเพราะความรักเป็นแค่อารมณ์และความรู้สึกมันเปลี่ยนแปลงได้มันเคลื่อนตัวได้ บางคนยิ่งคบยิ่งรัก บางคนยิ่งคบยิ่งรักน้อยลงยิ่งแบบไม่ใช่อะไรอย่างนี้ แต่สุดท้ายคำตอบที่ได้จริงๆคือเราไม่ได้รักกันมากพอที่จะไปต่อเท่านั้นเอง ซึ่งมันไม่ได้หมายความว่าถ้าเราเกิดมีความรักแล้วมันจะเป็นแบบนี้ทุกครั้ง แต่มันอาจจะไปบังเอิญเจออะไรแบบนี้ซ้ำๆเราอาจจะรู้สึกว่าคำถามมันจะทำไมๆตอบว่าบังเอิญก็ได้ เราอาจจะยังไม่เจอคนที่บังเอิญพอดีกันหรือคนที่รักกันจริงสักที แต่รู้สึกว่าความรักมีผลกับ ไนกี้ มากเพราะสีหน้าเปลี่ยนไปเลยแปลว่ามาผลต่อใจเรา
ไนกี้ นิธิดล : มีครับ เพราะว่าระหว่างที่เล่าไปก็นึกถึงสิ่งที่มันเกิดขึ้นแล้วก็ครับ (หน้าเศร้า)

ถาม ซึ่งมันไม่ใช่แค่สิ่งที่อยู่ในความรู้สึกของ ไนกี้ หรอกแต่คงจะอยู่ในความรู้สึกของเขาเหมือนกันเพราะว่าเขาคือผู้กระทำเรามีอะไรอยากจะบอกเขาไหมเผื่อเป็นการปลดล็อก
ไนกี้ นิธิดล : ผมก็เต็มที่จริงๆนะครับ กับความรักครั้งนี้แล้วก็หวังดีและปรารถนาดีกับเขาถ้าสุดท้ายแล้วไปต่อด้วยกันไม่ได้ก็น่าจะอย่างที่พี่ๆบอกครับ เราอาจจะยังมีความรักที่ไม่มากพอให้กันและกันมั้งครับ น่าจะเป็นไปในทางนี้

ถาม และมาจนถึงตอนนี้วันนี้ จากเด็กเกเรในวันนั้นจนทำให้คุณแม่ภูมิใจที่สุดในวันนี้รู้สึกเป็นอย่างไรบ้าง
ไนกี้ นิธิดล : ภูมิใจมากเพราะว่าเราตั้งใจเดินมาทางนี้อย่างภาคภูมิใจแล้วเขาก็ไม่ได้สนับสนุนเรามาตั้งแต่แรก แต่วันนี้เขามองว่า ไนกี้ ลูกทำได้แล้วนะ

ถาม แล้วอยากจะบอกอะไรกับคุณพ่อคุณแม่ไหม
ไนกี้ นิธิดล : อยากจะบอกคุณพ่อคุณแม่ขอบคุณมากๆครับที่ให้กำเนิดหนูคนนี้ขึ้นมานะครับ แล้วก็ขอบคุณนะครับที่คุณพ่อคุณแม่รักผมเสมอไม่ว่าสุขหรือทุกข์ก็จะมีคุณพ่อคุณแม่อยู่เคียงข้าง รักคุณพ่อคุณแม่ทุกๆวันจริงๆครับ

คุณแม่ไนกี้ : ภูมิใจความค่ะ จากเด็กที่เกเรมากอารมณ์ร้อนแล้วก็ดื้อมากโตแล้วก็ช่วยแบ่งเบาภาระหน้าทีของครอบครัว เขาเดินมาบอกแม่ตอนอยู่มหาวิทยาลัยว่าแม่หนูจะจ่ายค่าเทอมเองนะหนูพอหาเงินได้แล้วพอช่วยแม่ได้แล้ว เรานี่น้ำตาของความเป็นแม่ไม่รู้พูดไม่ออกเลยมันตื้นตันภูมิใจมากค่ะ กับลูกคนนี้ อยากบอกลูกรักลูก เป็นห่วงทุกๆเรื่อง ทุกๆอย่าง ไม่ว่าหนูจะโตขนาดไหนอายุเท่าไหร่ ยังไง หนูก็เป็นเด็กน้อยของแม่อยากให้หนูดูแลสุขภาพพักผ่อนเยอะๆรักนะจ๊ะ เจ้าเด็กน้อย

ถาม ไนกี้ อยากจะมีอะไรบอกน้องๆที่มาสายห้าวเหมือน ไนกี้ บ้าง
ไนกี้ นิธิดล : อยากจะบอกน้องๆนะครับว่า ทุกอย่างที่ไปทะเลาะวิวาทบางทีถ้าเราโชคไม่ดีมันเกิดเป็นการสูญเสียจริงๆนะครับ อยากให้ทุกคนมีสติในการใช้ชีวิตแล้วพี่เองก็ผ่านอะไรมาเยอะเหมือนกัน จริงๆแล้วอยากให้หันกลับไปมองคุณพ่อคุณแม่ไว้นะครับเพราะว่าคุณพ่อคุณแม่เขารักเรามากนะเพราะบางทีเราพลาดพลั้งหรือว่าเกิดอะไรขึ้นเขาคือคนที่เสียใจมากที่สุด