เกาะติดข่าวดาราก่อนใคร

กดติดตาม “ทีวีพูล”

banner

18 กุมภาพันธ์ 2566 เมื่อเวลา 13.00 น. น.ส.กรภัทร (สงวนนามสกุล) อายุ 38 ปี พา ด.ช.เอ อายุ 13 ปี และ ด.ช.บี อายุ 14 ปี ลูกชาย เข้าพบนายเอกภพ  เหลืองประเสริฐ  ผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด เพื่อขอความช่วยเหลือ เนื่องจากลูกชายทั้ง 2 คน ถูกรุ่นพี่โรงเรียนประจำชื่อดังใน จ.เพชรบุรี สั่งลงโทษอย่างทารุณไร้เหตุผล ให้ลงแช่ในบ่อเกรอะ และลงโทษทางทหาร จนเกิดบาดแผลติดเชื้อรักษาไม่หาย ซึ่งทางโรงเรียนและครูหอพักปัดความรับผิดชอบกับเหตุการณ์ครั้งนี้

ด.ช.เอ อายุ 14 ปี และ ด.ช.บี อายุ 13 ปี สองพี่น้องผู้เสียหาย เล่าว่า เหตุการณ์เกิดช่วงปลายเดือนมกราคม มูลเหตุมาจากคนในหอตื่นสายตอน 05.40 น. เพราะไม่มีคนมาปลุก แต่ตามกฎระเบียบของหอต้องตื่น 05.30 น. มาออกกำลังกาย และในช่วงเย็นของวันเดียวกัน ก็มีประเด็นเรื่องทำความสะอาดหอไม่สะอาดและไม่เก็บอุปกรณ์ ทั้งที่ตนเก็บอุปกรณ์เรียบร้อยและทำความสะอาดแล้ว

ด้วยมูลเหตุดังกล่าว ในเวลาประมาณ 4 โมงเย็นหลังเลิกเรียน จึงถูกรุ่นพี่ ม.5 ของหอพัก สั่งลงโทษรวมนักเรียน ม.1 ถึง ม.4 ซึ่งตนทั้งสองคนก็โดนไปด้วย โดยสั่งให้ทุกคนกระโดดลงไปแช่ในบ่อเกรอะหลายนาที ก่อนจะสั่งให้ขึ้นจากบ่อโดยไม่ล้างตัวและลงโทษตามวิธีการทหาร เช่น ดันพื้น ลุกหมอบ กลิ้งไปกลิ้งมาจนเป็นแผลทั่วร่างกาย ทั้งยังนำน้ำอุจจาระมาเทราดพวกตน

จากนั้นน้องผู้เสียหายทั้ง 2 คนจึงแจ้งให้แม่ทราบถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น แม่ของผู้เสียหายจึงรีบเดินทางมารับน้องไปรับรักษาบาดแผลที่โรงพยาบาลทันทีในวันรุ่งขึ้น ปรากฎว่าแผลติดเชื้อ ผ่านไปหนึ่งเดือนก็ยังรักษาไม่หาย และมีท่าทีว่าจะอักเสบมากขึ้น

แม่ของน้องผู้เสียหาย กล่าวว่า ตนได้เดินทางไปถามข้อเท็จจริงกับคุณครูประจำหอ ปรากฎว่าครูประจำหอบ่ายเบี่ยงที่จะรับผิดชอบ โดยอ้างว่าเด็กสมัครใจโดดลงไปเองและเป็นไปตามธรรมเนียมรุ่นพี่ปกครองรุ่นน้องที่ต้องบ่มเพาะอบรมให้รุ่นน้องมีระเบียบวินัย และยังท้าทายให้ไปแจ้งความดำเนินคดี อีกทั้งอัดคลิปทำทีให้นักเรียนรุ่นพี่พูดกล่าวหาว่าลูกตนสมัครใจโดดลงไป ทั้ง ๆ ที่ข้อเท็จจริง น้องผู้เสียหายถูกสั่งให้โดดลงไปและต้องทำตามด้วยความกลัว

ทางโรงเรียนเองก็บ่ายเบี่ยงที่จะพูดคุยหลายครั้ง จนล่าสุดนัดหมายกับทางโรงเรียนพร้อมรุ่นพี่หอพักให้มาพูดคุยกันในวันพรุ่งนี้ แต่ยังไม่ระบุเวลาที่แน่ชัด แต่ยืนยันว่าหลังจากนี้จะดำเนินคดีให้ถึงที่สุดทั้งโรงเรียนและรุ่นพี่คนที่ลงโทษ ตอนนี้ตนให้ลูกลาออกจากโรงเรียนดังกล่าวแล้ว ตนไม่เข้าใจว่าการสร้างเสริมวินัยนักเรียนทำไมต้องทำเกินกว่าเหตุเช่นนี้ ตนส่งลูกให้มาเป็นนักเรียน ไม่ใช่มาเป็นนักโทษ

ก่อนหน้านี้ ด.ช.เอ ก็เคยถูกลงโทษเมื่อเดือนธันวาคม 2565 ด้วยการลุกนั่งถึง 200 ครั้ง จนโรคหอบหืดกำเริบและรักษาไม่หาย ทั้งที่ก่อนหน้านี้ไม่มีอาการของโรคนี้แล้ว จึงมาร้องเรียนให้สายไหมต้องรอดช่วยเป็นตัวกลางในการแจ้งความดำเนินคดีกับทางโรงเรียนและตีแผ่เรื่องราวระบบโซตัสในโรงเรียนประจำที่ยังหลงเหลืออยู่สู่สังคม

ด้าน นายเอกภพ กล่าวว่า เหตุการณ์นี้แสดงให้เห็นถึงความบกพร่องของกระทรวงศึกษาธิการ เรื่องการออกกฎควบคุมมิให้เกิดการทำกิจกรรมในลักษณะของการทารุณกรรมในสถานศึกษา ทั้งที่การกระทำดังกล่าวเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมาย เป็นการทำร้ายร่างกาย และละเมิดสิทธิ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

สุดสลด 6 รุ่นพี่โหด กราบเท้าและกล่าวขอโทษกับคุณพ่อ ของรุ่นน้องที่โดนรับน้องจนเสียชีวิต

ศาลพิพากษาลงโทษจำคุก 1 ปี 9 เดือน กับรุ่นพี่โหดเตะซ่อมรุ่นน้องจนเสียชีวิต อ้างทำไปเพราะรัก