เกาะติดข่าวดาราก่อนใคร

กดติดตาม “ทีวีพูล”

banner

เปิดหมดเปลือกช่วงเวลาชีวิต !!! ฮั่น เผยมีช่วงหลงไฟ พร้อมเปิดใจถึงสภาวะซึมเศร้าที่ต้องเจอ แต่โชคดีที่มี จียอน อยู่เคียงข้าง

เมื่อ ฮั่น อิสริยะ & จียอน มาเป็นแขกรับเชิญพิเศษในรายการ Club Friday Show ผลิตโดย CHANGE2561 เปิดเรื่องราวในชีวิตพร้อมและเผยความรักแบบทุกซอกทุกมุมของหัวใจในทุกช่วงเวลาของชีวิต เผยถึงช่วงหลงไฟ และเปิดใจถึงสภาวะซึมเศร้าที่ต้องเจอ

ถาม ในช่วงชีวิตที่เราเรียกว่าเป็นช่วงหลงไฟ
ฮั่น : ผมว่าใช่ครับ เป็นช่วงหลงไฟเลยเราก็อยู่กับวงจรนั้นมาตลอดเป็นระยะเวลานานอยู่เหมือนกัน ทำงานเหนื่อยแค่ไหนไปเล่นคอนเสิร์ตเสร็จประมาณเที่ยงคืน ตี1 แค่ 40 นาทีผมมาได้ผมก็เอามันติดมากถึงขั้นเรามาแค่เพื่อจ่ายเงินให้เพื่อนกินเหล้าเท่านั้น ผมก็ไม่รู้ทำไปเพื่ออะไร ซึ่งในบางคืนผมเคยหมดกับการดื่มคืนหนึ่งหลานแสน คือเลี้ยงทุกคนโดยที่เราไม่รู้ตัวเองเลยว่าทำไปเพื่ออะไร

ถาม ซึ่งในวันนั้นเองต้องยอมรับว่า ฮั่น เป็นคนที่ประสบความสำเร็จในงานของตัวเองและงานเข้ามาเยอะ
ฮั่น : ใช่ครับ ผมยอมรับว่า ณ ตอนนั้นน่าจะเป็นคนที่ประความสำเร็จในด้านการทำงาน แต่การใช้ชีวิตน่าจะไม่ใช่

ถาม มีบางเสียงบอกว่าตอนนั้นทำงานกับ ฮั่น ไม่ง่าย
ฮั่น : ไม่ง่ายครับ คือ ผมมีสเปกในการทำงานของตัวเองยิ่งถ้าเป็นการเล่นคอนเสิร์ต ชัดเจนมากครับว่าเหมือนผมต้องมีสัก 15-20 นาทีในการที่ห้ามคนเข้ามาคุยกับผมเพราะว่าผมต้องการที่จะทำสมาธิ ผมจะไม่อยากแบกเรื่องความผิดพลาดของคนอื่นขึ้นไปทำงานเพราะเรารู้สึกว่าเราต้องให้ความสุขคนที่เขาอยู่หน้าเวทีนะแต่บางทีมันจะมีบางเรื่องอันนั้นยังไม่มา มาสายหรืออะไรอย่างนี้เราจะรู้สึกว่าทำไมเราต้องแบกรับเรื่องพวกนี้ขึ้นไปเพราะว่าเรารับผิดชอบในงานของเราแล้ว

ถาม ไมโครโฟนก็ยังต้องเป็นไมโครโฟนที่เราเตรียม คือทุกอย่างต้องเซตสมบูรณ์แบบสำหรับความรู้สึกของเรา
ฮั่น : ใช่ครับ ผมรู้สึกผมแค่ เรารู้สึกว่าเราทำงานเขาจ้างเรา เราก็เลยอยากให้เลือกสิ่งที่ดีที่สุด ในการทำงานให้กับผู้จ้าง มันรู้ตัวตอนที่ทุกอย่างมันเริ่มค่อยๆดาวน์ลงมาแล้ว ตอนที่มันติดลมบนเราจะไม่รู้หรอกครับ แต่พอมันเราดาวน์ลงเราย้อนกลับไปดูตัวเองบางอันมันก็ควรจะผ่อนนะ เหมือนตอนนั้นเสพงานแบบเกาหลีเยอะยุคสมัย Bigbang ใหม่ๆผมจะอินเขามาดูเขาทุกอย่างมันต้องมืออาชีพนะ

ถาม ถึงขั้นเคยเดินออกจากงานเพราะว่าเจาผิดดีลกับเรา
ฮั่น : ใช่ครับ !! เคยข้อตกลงครับในการทำงานก่อนดีลเป็นอย่างนี้ พอไปถึงงานปุ๊บ !! เราไม่ได้ทำตามที่คุยกันไว้ เหมือนอยู่ๆเขาจะขอเปลี่ยนสโคปงานตามหน้างาน ผมก็เลยบอกว่าไม่ได้มันนอกเหนือจากที่ผมจะต้องทำ แล้วเหมือนผมจะต้องมีการเตรียมตัวใหม่ ผมก็เลยบอกว่าอย่างนั้นไม่เป็นไร ถ้ามันมีค่าเสียหายอะไรอย่างนี้เดี๋ยวผมจ่าย แล้วผมก็เดินออกไปเลยสุดท้ายงานเขาก็เหมือนเรียกกลับ แล้วเขาขอทำงานในรูปแบบเดิมอะไรอย่างนี้ครับ

ถาม อีกช่วงเวลาหนึ่งในชีวิตของ ฮั่น เคยซึมเศร้าจนตัดสินใจจะจบชีวิตตัวเอง
ฮั่น : ก็คือกินนอน กินนอนอยู่อย่างนี้ระยะเวลาเป็นปีๆครับ แล้วก็ใครทำอะไรก็รู้สึกไม่ได้ดั่งใจสักอย่าง จนคุยกับเขา แล้วมันร้องไห้บ่อยจนมันเริ่มหนักขึ้นตอนที่ ผมเริ่มรู้ตัวตอนที่ทะเลาะกับเขา แล้วผมเริ่มมีความคิดว่าผมทำร้ายตัวเองแล้ว ตอนแรกก็แค่นิดๆหน่อยๆแต่มันเริ่มถึงขั้นแบบทำจริง คืนวันนั้นเราทะเลาะกันแรงมาก แล้วผมก็เหมือนตัดสินใจว่า เราเดินออกจากจุดนี้ไปเลยระหว่างเดินไปรู้สึกว่าหลงทาง ชีวิตทำไมมันหลงทางมันเหมือนแบบ ถือโทรศัพท์นะครับแต่ไม่รู้จะโทรหาใคร ทำไมแค่จะโทรหาใครสักคน เรายังนึกไม่ออกเลยว่าเราจะโทรหาใคร ทั้งๆที่เราเป็นคนที่มีเพื่อนเยอะนะ แต่เวลาที่เจอปัญหาแบบนี้ทำไมเราไม่กล้าคุยกับใคร อยู่ๆ อันนี้ความเป็นจริงนะครับ คือทุกอย่างมันมืดไปหมดเลยมันดูโดดเดี่ยวมากเหลือเกิน ผมก็เลยตัดสินใจว่าจบชีวิตตัวเองเลย

ถาม ตั้งใจจะทำอะไร ??
ฮั่น : ผมจะกระโดดสะพานคิดแค่นั้นเลย

ถาม จังหวะตรงนั้นเราไม่คิดถึงใครเลยเหรอ ?? ว่าเขาจะเสียใจหรืออะไรอย่างนี้
ฮั่น : ทุกอย่างมันว่างเปล่ามากเลยครับ

ถาม แล้วอะไรที่มาหยุดเราเอาไว้ได้ ??
ฮั่น : แค่มีพี่คนหนึ่งครับ เขาขี่มอเตอร์ไซค์มาเขากำลังจะกลับรถ เขาเรียกชื่อผมเท่านั้นเองครับ อ้าว !! พี่ฮั่น ทำอะไร … แค่นี้เลยครับ ผมก็เลยแบบมีสติเลย เพราะว่าตอนนั้นมันเหมือนแบบ อะไรไม่รู้ดึงผมไปไหนตอนไหนไม่รู้ครับ เหมือนไม่เห็นอะไรเลยแล้ว อยู่ๆเค้าเรียกชื่อเราผมก็เลยแบบเหมือนดึงกลับมาได้ว่ายังมีคนรู้จักเราอะไรอย่างนี้ ผมว่ามันเกิดจากความรู้สึกว่า เราไม่พร้อมเหมือนเดิมเราไม่สมบูรณ์แบบเหมือนเดิมอะไรอย่างนี้ มันก็เลยทำให้ทุกอย่างผมรู้สึกแย่ลงไปเรื่อยๆ

ถาม แล้วคนนั้นเขารู้มั้ยว่าเขาเป็นคนที่ช่วยชีวิตคน คนหนึ่งไว้ ??
ฮั่น : เพราะว่าตอนที่เขาเรียกเสร็จ ผมเดินไปแล้วผมก็เหมือนแบบกอดเขา แล้วเขาก็บอกผมว่าพี่ไม่ทำอย่างนี้นะอะไรอย่างนี้

ถาม เพราะว่าเขาเห็นเลยใช่ไหม ว่าเรากำลังจะตัดสินใจคิดสั้น
ฮั่น : คือผมไปยืนบนแท่นครับ ที่มันเป็นอุโมงค์เฉยๆอะไรอย่างนี้ ก็ดูว่ารถวิ่งมา ยืนอยู่แล้วก็จังหวะแบบกะว่าถ้าลงวิ่งมาแล้วก็ลงไปเลย พอเขาเรียกปุ๊บ !! ผมก็.. เดินไปแล้วก็ไปกอดเขา แต่ผมไม่ได้พูดอะไรนะครับ เขาก็บอกว่าไม่ทำแบบนี้นะพี่ แล้วเขาก็ขับรถไปเลย แต่ถ้าวันนั้นผมไม่ได้พี่คนนั้น ผมว่าผมไม่ได้นั่งตรงนี้นะครับ

ถาม อันนี้เราต้องคุยกันก่อนนะ ว่าไงภาวะนั่นคือภาวะซึมเศร้า ไม่ได้แปลว่าอยู่ๆ ฮั่น เองจะสามารถที่จะแบบว่า ฉันไม่มีค่าอะไรเลยแต่ว่า ตอนนั้นอยู่ในภาวะซึมเศร้ามันเหมือนกับมองทุกอย่างเหมือนเป็นหลุมดำ เราเรียนรู้กัน ตอนนั้น จียอน รับรู้ถึงความถึงอารมณ์ของ ฮั่น ได้อย่างไรบ้าง
จียอน : มาเป็นอย่างนี้ก็คือแบบ สักพักใหญ่แล้วว่าแบบ อารมณ์ของเค้าจะขึ้นๆลงๆมากกว่าเราอยู่แล้ว แต่ว่าเหมือนมากขึ้น เหมือนบ่อยขึ้น พูดอะไรก็ไม่พอใจแล้วเขาก็พูดกับเราเสมอว่า เหมือนอยู่คนเดียวเลย ทั้งๆที่อยู่ด้วยกันอย่างนี้ เราก็เลยบอกว่าอยู่ด้วยกันนี่ไงอยู่ด้วยกันเนี่ย เราเป็นผีเหรอเราก็เล่นกับเขาอย่างนี้ เหมือนเรื่องที่เขากำลังจะเจอ เขาก็ไม่ได้ปรึกษากับเรา อยู่ดีๆเขาเข้าห้องไปแล้วก็ตึงตังๆ เราก็แบบเกิดอะไรขึ้น เราก็เข้าไปดูเขาทำลายข้าวของ เหมือนควบคุมตัวเองไม่ได้แล้

ถาม ตอนนั้น จียอน เริ่มรู้สึกว่ามันไม่ใช่ปกติแล้ว ??
จียอน : ใช่ค่ะ จังหวะหนึ่งที่เขาจะแบบตีตัวเองกับไม้แบดอันนั้น เราก็ห้ามเขาแล้วแบบเป็นอะไรคุยกับจีหน่อย เป็นอะไรเราก็แบบร้องไห้ เพราะเราก็ไม่รู้จะช่วยอย่างไร นี่คือ แบบอย่างไร สถานการณ์มันคืออย่างไรแต่เขาก็ไม่พูดแล้วเขาก็ร้องไห้แล้วเขาก็จะตีตัวเอง เราก็กลัวเราก็ทำได้แค่กอดเขาว่าแบบไม่เป็นอะไรนะ จี อยู่นะ จี อยู่ข้างๆนะไม่ต้องห่วงแต่วันนั้นที่เขาเดินออกไปจากบ้านหลังจากทะเลาะกัน เราไม่รู้เพราะว่าเขาหายแบบนี้บ่อยอยู่แล้ว (ยิ้ม) ซึ่งเรื่องนี้ก็คือ เขาก็เล่าให้เราฟังหลังจากเหตุการณ์มันเกิดขึ้นนานแล้วคะ จนเขาก็เหมือนไปศึกษาด้วยตัวเอง แล้วเขาก็พบเจอว่านี่คือภาวะซึมเศร้า เขาก็ขอโทษเราว่าที่ผ่านมาก็คือแบบ เป็นยังนี้ก็คือน่าจะเพราะโรคแบบนี้แหละ เราก็ถามเขาว่าสามารถช่วยแบบไหนได้บ้าง ไปหาหมอไหมแต่เขาก็ไม่ แต่หลังจากนั้นเขาก็ยอมคุย ทุกอย่างที่เขารู้สึกอะไรอย่างนี้มากขึ้น เหมือนเขาก็ฮีลขึ้น

ถาม แล้วที่สุดแล้วทั้งสองคนได้ไปพบจิตแพทย์ไหม ??
ฮั่น : ไม่ได้ไปครับ

ถาม แล้ว จียอน เองก็เริ่มรู้สึกเหมือนกันว่า หรือฉันก็มีภาวะนี้แล้วเหมือนกัน
จียอน : เราไม่ได้ขนาดถึงของ พี่ฮั่น แต่ว่าเรารู้สึกว่าเบิร์นเอาต์ เหมือนไปทำงานแต่ก็ เหมือนแบบไม่ได้มีความตื่นเต้น แล้วนั่งถ่ายรายการอยู่ดีๆก็คือแบบ เหมือนไม่ได้อยู่กับรายการเลย คิดคนเดียวหรือแบบว่างเปล่ามาก ฉันทำอะไรอยู่ตรงนี้ไม่อยากทำอะไรเลย อันนี้คือเกิดขึ้นหลังจากพี่ฮั่น จนเขาก็ไปหามาในเว็บไซต์ แล้วเขาก็เริ่มถามเหมือนหมอว่าเป็นอย่างนี้ไหม เหมือนทำแบบสอบถาม แล้วเขาก็บอกว่าที่รักกำลังจะเจอสภาพเบิร์นเอาต์อะไรอย่างนี้ แบบเหมือนสิ่งที่เขาพูดๆก็คือ แทงใจเราเหลือเกินเราก็ร้องไห้กับเขาใช่เลยๆ

ถาม เราไม่ได้ไปหาจิตแพทย์เรารักษาวิธีไหน ??
ฮั่น : หลังจากวันนั้นคือผมเป็นคนชอบแก้ปัญหาด้วยตัวเอง แล้วผมก็ไม่ค่อยคุยกับใคร ตัดสินใจว่าต้องแก้มันด้วยตัวเอง เพราะว่าเราสร้างมันขึ้นมาด้วยตัวเอง มันอาจจะไม่ใช่วิธีที่ถูกต้องสำหรับทุกคนนะครับ คือผมแค่อยากรู้ ผมก็เลยลงลึกไปกลับมัน ผมก็เข้าห้องทำงานของผมครับ แล้วก็ปิดห้องนั้นอยู่ในห้องนั้นประมาณหนึ่งเดือน ซึ่งเป็นช่วงที่เขาไม่ได้อยู่กับผม แล้วผมเหมือนใช้เวลาอยู่กับเรื่องอย่างนี้ จนผมว่าเขาเริ่มรู้สึกอยู่คนเดียว แล้วเขาค่อยมามีภาวะเบิร์นเอาต์หลังจากผม แล้วก็เคลียร์ตัวเองได้ดีขึ้น ผมบอกเขาบอกว่าเราขอโทษนะอะไรอย่างนี้ ที่รักเขาขอโทษนะ

ถาม แล้วตอนนั้นคือสองคนจับมือกันแล้ว แก้ปัญหากันอย่างไร
ฮั่น : คุยกันครับผมไม่เคยเปิดมุมที่อ่อนแอให้ใครเห็น ผมก็คิดว่าสิ่งนี้กำลังท้าทายตัวเองอยู่ รวมถึงวันนี้ที่พูดเพราะว่าผมก็บอกเลยว่า เขายังถามผมอยู่เลยว่าโอเคใช่ไหมที่จะพูด ผมบอกว่าไม่เป็นไรเพราะผมรู้สึกว่า ถ้ามันเป็นการแบ่งปันสิ่งนี้ออกไป แล้วมันเป็นเรื่องดีกับคนอื่นผมว่ามันก็ดี แล้วผมต้องผ่านมันไปให้ได้ แล้วก็เหมือนคุยกับเขาแล้วก็บอกเขาว่า เรามีปัญหาแบบนี้ด้านนี้เราไม่สมบูรณ์แบบ ด้านนี้เราอ่อนแอนะ แล้วเขาก็เหมือนรับฟังแล้วเขาก็ได้รู้ แล้วผมว่าการที่เขาไม่ได้พูดอะไร การกระทำเขา พี่จี เขาเป็นคนไม่ค่อยพูดเวลาเราอยู่ด้วยกัน แต่ว่าเขาเป็นคนทำมันทำให้การกระทำของเขา มันสอนผมเองโดยอัตโนมัติจริงๆแล้วเราได้เกิดมา เราควรภูมิใจกับตัวเราเอง ถึงแม้ว่าคนเคยจดจำผมในวันที่แบบ ฮั่นที่แบบว่ามีซิกซ์แพ็ก เต้นนี่นั่นอะไรอย่างนี้ ผมไปติดอยู่กับอดีตเยอะ จนลืมมองว่าสิ่งที่มีคุณค่าในปัจจุบัน มันคือวันนี้ผมมีเขา วันนี้ผมยังได้มานั่งตรงนี้ได้ทำงานกับพี่ฉอดพี่อ้อยพี่อ๋อง กับพี่ๆทีมงานทุกคนผมว่าเรื่องพวกนี้คือ เราต้องเห็นคุณค่าของมันด้วยโลกที่มันหมุนเร็วมาก แล้วเราหมุนเร็วตามโลกเราจะเสียความเป็นตัวตนของเราไป

 


สามารถชมคลิป ย้อนหลัง ได้ในรายการ CLUB FRIDAY SHOW ผลิตโดย CHANGE2561 ทางยูทูป :

 

 

 

ข่าวอื่นๆที่น่าสนใจ

จากวันนั้นถึงวันนี้ ‘บุ๊คโกะ’ โพสต์คลิปเมื่อสมัย 15 ปีก่อน มาไกลมาก

‘ใหม่ ดาวิกา’ เผยภาพชีวิตอยู่ติดบ้าน ชิล ๆ พร้อมเหล่าน้องหมาคู่ใจ ฟีลกู๊ดสุด ๆ

“เบส คําสิงห์” ไม่ปิดกั้นเรื่องรัก พร้อมเปิดใจเริ่มต้นกับคนใหม่

 

*️⃣ #ว้าว! #สุดยอดนักรีวิว #โฟมล้างหน้า24Plus #ใช้ดีแล้วบอกต่อ #รีวิวโพสต์ลงโซเชียล #โฟมล้างหน้า24Plus #โฟมล้างหน้า24พลัส
#กดลิ้งค์รับข้อมูล
https://www.tvpoolreward.com/salepagefoam/contactpage
*️⃣ #อ่อนเพลีย #ไขมันพอกตับ #สายปาร์ตี้ #ดื่มหนัก #ทานหนัก #ทานฮ๊อกเกตไธโอน #ดูแลตับวันละ1เม็ด #ฮ๊อกเกตนามูจากเกาหลี #ช่วยทำให้ตับดี #ฮ๊อกเกตไธโอน #สุขภาพ​ดี #Heokkaetione
#กดลิ้งค์รับข้อมูล
https://www.tvpoolreward.com/salepageheokkaetione/contactpage

by TVPOOL ONLINE