กรณีเหตุสะเทือนขวัญ เมื่อบ้านพักในบริเวณบ่อบำบัดน้ำเสีย เลขที่ 100 หมู่ 7 ต.ศาลาลัย อ.สามร้อยยอด จ.ประจวบคีรีขันธ์ ถูกเพลิงไหม้เผาอย่างรุนแรงจนวอดเสียหายทั้งหลัง ส่งผลให้ นายสำราญ เพชรประดับ อายุ 40 ปี ทำอาชีพรับจ้างดูแลบ้านพักของชาวต่างชาติ น.ส.รุ้งทิพย์ สายทอง อายุ 38 ปี ภรรยา และ ด.ญ.ประภัสสร เพชรประดับ วัย 1 ขวบ ซึ่งทั้งหมดเป็นพ่อแม่ลูก โดนไฟคลอกร่างเกรียมคาซากปรักหักพัง โดยญาติเชื่อว่าเป็นการวางเพลิงอำพราง เพราะมีพยานได้ยินเสียงปืนดังขึ้นจากในบ้าน รวมทั้งมีผู้ต้องสงสัยหายตัวไป
กระทั่งตำรวจติดตามไปจับกุมตัว นายนิพนธ์ ช้างแก้ว หรือฉายา “ใหญ่ ดอนยายหนู” อายุ 38 ปีได้ ซึ่งสุดท้ายยอมเปิดปากรับสารภาพว่าใช้ปืนขนาด 11 มม. ยิงเหยื่อจนเสียชีวิตทั้ง 3 ราย เมื่อคืนวันที่ 18 เม.ย. ที่ผ่านมา แล้วลากศพให้กระจัดกระจายทั่วทั้งบ้าน ก่อนจุดไฟเผาหวังจะทำลายหลักฐาน โดยอ้างว่าโกรธแค้นที่ผู้ตายที่ไม่ยอมจ่ายเงินเดือน
ล่าสุดวานนี้ (วันที่ 22 เม.ย.) ที่ ศาลจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ออกหมายจับ นายประยูร เพชรประดับ ญาติของผู้ตาย ในข้อหากระทำความผิดฐานช่วยเหลือผู้อื่นไม่ให้ต้องรับโทษ หรือรับโทษน้อยลงซ่อนเร้น เอาไปเสียซึ่งเป็นพยานหลักฐานในการกระทำความผิด โดยเจ้าหน้าที่ตรวจค้นพบอาวุธปืนขนาด 11 มม.ซ่อนไว้ในท่อน้ำข้างบ้านของ นายประยูร ซึ่งเป็นอาวุธปืนที่ใช้ก่อเหตุ และยังพบว่า นายประยูร น่าจะมีส่วนรู้เห็นกับการก่อเหตุของ “ใหญ่ ดอนยายหนู” จึงมีการรวบรวมหลักฐานเพื่อขอศาลอนุมัติหมายจับดังกล่าว
อย่างไรก็ตาม สำหรับผู้ต้องหาในคดี ยังไม่ได้มีการนำตัวไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ เนื่องจากมีประชาชนจำนวนมากรอดูหน้าคนร้ายด้วยความโกรธแค้น จึงเกรงว่าผู้ต้องหาจะไม่ปลอดภัย
ขณะที่ นายดนัย สายทอง อายุ 25 ปี บุตรชาย น.ส.รุ้งทิพย์ ผู้เสียชีวิตกับสามีเก่า ยืนยันว่าเรื่องที่ นายนิพนธ์ ผู้ต้องหา อ้างว่าไม่จ่ายเงินเดือนไม่ใช่เรื่องจริง เนื่องจากตอนที่ผู้ต้องหามาขออาศัยอยู่ที่นากุ้งเป็นช่วงพักบ่อ และเจ้าของนากุ้งตัวจริงเป็นนักการเมืองท้องถิ่น แม่ของตนเป็นแค่ผู้ดูแลบ่อกุ้งเท่านั้น จึงสันนิษฐานว่าผู้ต้องหาน่าจะโกรธแค้นเรื่องที่ก่อนหน้านี้แม่ตนไปแจ้งตำรวจว่า นายนิพนธ์ มียาบ้าและอาวุธปืน จนเคยถูกจับกุม
CR. – workpointtv.com
