เกาะติดข่าวดาราก่อนใคร

กดติดตาม “ทีวีพูล”

banner

พลเมืองดีแจ้งขอความช่วยเหลือผ่านสายด่วน 1134 มูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรีว่า พบเด็กหญิงอายุ 13 ปี นัก เรียนชั้นม.1 โรงเรียนแห่งหนึ่งย่านดอนเมือง กรุงเทพฯ ถูกแม่ทุบตีทำร้ายร่างกายจนตาเขียวช้ำ ปากแตก ตามร่างกายมีร่องรอยแผลเป็นทั้งเก่าและใหม่ ซึ่งเกิดจากการถูกบุหรี่จี้ ถูกเตารีดนาบที่ขา และคีมตัดลวดหนีบ จึงได้รีบรายงานให้นางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาฯ ทราบเรื่องเพื่อให้การช่วยเหลือด่วน โดยนางปวีณา ได้ประสาน พ.ต.อ.สุรเชษฐ์ บัณฑิตย์ ผกก.สน.ดอนเมือง และประสาน นางสาวดรุณี มนัสวานิช ผู้อำนวยการศูนย์ช่วยเหลือสังคม กระทรวงการพัฒนาสังคมฯ ส่งเจ้าหน้าที่เข้าช่วยเหลือเด็กหญิงพร้อมกับเจ้าหน้าที่มูลนิธิปวีณาฯ ก่อนเดินทางไปที่โรงเรียนพบกับเด็กหญิงคนดังกล่าว พร้อมติดต่อเชิญตัวแม่เด็กมาพูดคุยที่โรงเรียนโดยแยกกับเด็กหญิงคนละห้อง เนื่องจากเด็กหญิงยังอยู่ในอาการหวาดกลัวอย่างหนัก

เด็กหญิง ม.1 เล่าว่า หนูอาศัยอยู่กับแม่เพียง 2 คน ที่แฟลตแห่งหนึ่ง ย่านดอนเมือง แม่ไม่ได้ทำงานอะไรเป็นแม่บ้าน ส่วนพ่อรับราชการ แยกกันอยู่กับแม่ ที่ผ่านมาพ่อจะส่งเงินให้ใช้ทุกสัปดาห์และมาเยี่ยมบ้างเป็นครั้งคราว ปกติแม่จะเป็นคนใจดีแต่พอเวลาที่พูดถึงพ่อก็จะหงุดหงิดขึ้นมาทันที หนูถูกแม่ตีมาตั้งแต่เด็กบางครั้งก็ไม่มีเหตุผล นั่งกันอยู่ดีๆก็ฟาดเข้าให้จนล้มคว่ำก็มี หรือบางทีถ้าแม่ถืออะไรอยู่ก็ใช้เป็นเครื่องมือทำร้าย เช่น ใช้บุหรี่จี้ที่แขนขา เตารีดนาบที่ขา คีมตัดลวดหนีบเนื้อ หลังจากนั้น จู่ๆแม่ก็อารมณ์ดีขึ้นและเข้ามาคุยกับหนูเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ที่ผ่านมาหนูอดทนเพราะรักแม่มาก พ่อรู้ว่าหนูถูกแม่ทำร้ายก็เคยรับไปอยู่ด้วย แต่ก็อยู่ได้ไม่นานเพราะหนูเป็นห่วงแม่ที่ต้องอยู่คนเดียวจึงขอกลับมาที่บ้าน แต่ดูเหมือนแม่จะเป็นหนักขึ้นทุกวัน ล่าสุดเมื่อคืนนี้จู่ๆแม่อาละวาดขึ้นมา เอาหวีมาครูดที่หัวหนูแล้วจับหัวโขกกับพื้นจนหัวแตก ใช้มีดปังตอตบปากจนเป็นแผลในปาก ฉีกเสื้อผ้าจนขาด หนูรู้สึกกลัวมากตอนนี้ไม่อยากอยู่กับแม่อีกแล้ว

จากนั้นเมื่อแม่ของเด็กหญิงมาถึงเจ้าหน้าที่ได้พูดคุยเรื่องที่เกิดขึ้น โดยแม่เด็กหญิงอ้างว่ามีความเครียดและกดดันจากหลายสาเหตุ ประกอบกับเป็นภรรยาคนที่ 2 บางครั้งเมื่อคิดมากก็จะเกิดอาการหงุดหงิดจนทำให้เผลอไประบายลงกับลูก แต่บางครั้งลูกก็ดื้อจึงต้องลงโทษ ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ได้เชิญตัวแม่เด็กหญิงไปลงบันทึกประจำวันไว้ที่สน.ดอนเมือง และรับตัวเด็กหญิงเข้ารับการคุ้มครองสวัสดิภาพตามพรบ.คุ้มครองเด็ก พ.ศ. 2546 ที่บ้านพักเด็กและครอบครัวกรุงเทพมหานคร นอกจากนี้เจ้าหน้าที่ยังได้แนะนำแม่เด็กหญิงเกี่ยวกับเรื่องภาวะเครียดควรได้รับการดูแลหรือตรวจรักษาจากแพทย์เฉพาะทางซึ่งแม่เด็กหญิงก็ได้รับทราบ ขณะเดียวกันเจ้าหน้าที่ได้ติดต่อไปทางพ่อของเด็กหญิงทราบว่าติดราชการอยู่ที่ต่างจังหวัดเมื่อเสร็จภารกิจจะรีบเดินทางมาพบลูกและปรึกษากับเจ้าหน้าที่เพื่อหาทางแก้ไขปัญหาครอบครัวต่อไป

ที่มา – มูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี