เป็นอีกเรื่องที่น่าเหลือเชื่อยังกับหนังเรื่องคนเหล็กเลยทีเดียว เมื่อวันที่ 1 ส.ค.60 สื่อต่างประเทศรายงานความคืบหน้าข่าวครึกโครม กรณีเฟซบุ๊กได้ประกาศหยุดพัฒนา ปิดระบบหุ่นยนต์ปัญญาประดิษฐ์ หรือ AI (เอไอ) 2 ตัว เนื่องจากพบว่าพวกมันสามารถพัฒนาสร้างภาษาใหม่ขึ้นมาสื่อสารระหว่างกันได้เอง โดยเรื่องนี้ ศาสตราจารย์เควิน วอร์วิก ศาสตราจารย์ที่มีความเชี่ยวชาญด้านหุ่นยนต์ ในสหราชอาณาจักร กล่าวเตือนด้วยความกังวลใจว่า หุ่นยนต์เอไอ ถือเป็นสิ่งอันตราย ซึ่งการที่พวกมันสามารถสร้างภาษาสื่อสารกันได้เองเช่นนี้ ถือเป็นหมุดหลักสำคัญที่ไม่น่าเชื่อว่าจะเกิดเหตุการณ์เช่นนี้ขึ้นได้
‘ใครก็ตามที่คิดว่าเรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องอันตราย ถือเป็นการหลีกหนี ไม่ยอมรับรู้ปัญหาที่จะเกิดตามมา’ ศ.วอร์วิก กล่าวด้วยความกังวล พร้อมกับชี้ว่า นี่เป็นครั้งแรกที่มีการบันทึกว่าหุ่นยนต์เอไอสามารถสร้างภาษาสื่อสารกันได้เอง แต่คงมีเรื่องราวอีกมากที่ไม่ได้ถูกบันทึกไว้ โดย ศ.วอร์วิก ยังกล่าวว่า ขณะนี้หุ่นยนต์เอไอมีความสามารถที่จะสื่อสารกันได้เองแล้ว ทั้งที่พวกเราคิดว่าเราได้เฝ้าจับตาติดตามดูมันอยู่ แต่พวกเรากลับไม่รู้ว่ามันมีความสามารถที่จะสร้างภาษาสื่อสารกันได้
ทั้งนี้ บริษัทเฟซบุ๊ก ได้ตัดสินใจปิดระบบเอไอในโครงการทดสอบการเรียนรู้ของหุ่นยนต์เอไอ 2 ตัว ที่รู้จักกันในชื่อ ‘อลิซ’ และ ‘บ็อบ’ ในการสื่อสารกัน แต่แล้วหุ่นยนต์เอไอทั้งสองตัวนี้ได้เริ่มพัฒนาภาษาที่สามารถสื่อสารกันได้เอง จนต้องปิดระบบเอไอที่ศูนย์วิจัย
ก่อนหน้านี้ ศาสตราจารย์สตีเฟน ฮอว์กินส์ นักฟิสิกส์ชั้นนำของโลก และ บิลล์ เกตส์ ผู้ก่อตั้งบริษัทไมโครซอฟท์ ได้เคยเตือนด้วยความกังวลมาก่อนหน้านี้ ถึงการพัฒนาหุ่นยนต์เอไอมากไป จนมนุษย์ควบคุมไม่ได้ ซึ่งจะเป็นภัยคุกคามต่อมนุษย์ได้ โดย ศ.ฮอว์กินส์ เตือนว่า การพัฒนาหุ่นยนต์เอไอ อาจเป็นจุดอวสานของมนุษยชาติ เนื่องจากระบบปัญญาประดิษฐ์ หากถูกพัฒนาให้มีความสามารถในระดับสูงเกินไป พวกมันจะสามารถ ‘วิวัฒนาการได้เอง จนขีดความสามารถเหนือกว่ามนุษย์ทุกด้าน และต่อต้านคำสั่งจากมนุษย์’.
ที่มา – thairath
by TVPOOL ONLINE