เรื่องย่อ เสน่ห์รักนางซิน
บทประพันธ์ จันทริกา
บทโทรทัศน์ ณัฐฐา
กำกับการแสดง รัฐกิตติ์ กิตติรัฐธนะโภคิน
ควบคุมการผลิต สมจริง ศรีสุภาพ
ค่ายผู้ผลิต บริษัท กู๊ด ฟิลลิ่ง จำกัด
“นุ่ม เบา สบาย …… ก่อนตายต้องได้ลอง”
สโลแกนแบรนด์รองเท้าในฝันสุดเก๋ไก๋ของ “พริม” (รมิดา เตชสิทธิ์) สาวสวยแต่ไม่รวยทรัพย์ ที่ชีวิตลำบากตรากตรำต้องกัดฟันดิ้นรนสู้ชีวิตมาตลอด เจ้าตัวนั้นมีความหลงใหลในเรื่องรองเท้าชนิดที่เรียกว่า คลั่ง
ก็คงจะไม่ได้ดูเวอร์จนเกินไป พริมมีความมุ่งมั่นและตั้งใจอย่างแรงกล้า เธอเชื่อว่าสักวันหนึ่งจะต้องมีแบรนด์รองเท้าเป็นของตัวเองให้จงได้ เพื่อสานฝันให้กับ “พาพร” (เปียเช่อร์ คริสเตนเซ่น) ผู้เป็นแม่ของเธอให้สำเร็จ และอีกเหตุผลก็เพื่อตามหา “เขา” ผู้ชายเพียงคนเดียวที่ได้ครอบครองหัวใจของเธอ แม้ว่าเขาคนนั้นจะทิ้งเธอและแม่ของเธอไปตั้งแต่เธอยังไม่ทันได้ลืมตาดูโลกก็ตาม
พริมอาศัยอยู่กับแม่เพียงลำพัง ตั้งแต่จำความได้เธอก็ผูกพันเกี่ยวกับเรื่องของรองเท้ามาตลอดชีวิตของเธอ บรรพบุรุษรุ่นปู่ย่าตายายนั้นเป็นช่างเย็บรองเท้า และแม้ว่าฝีมือการเย็บรองเท้าของแม้เธอจะดีเลิศขนาดไหนแต่ก็ไม่เคยที่จะเฉียดเข้าใกล้คำว่าโอกาสที่ดีเลยสักครั้ง มีเพียงร้านรับเย็บรองเท้าริมถนนที่ช่วยต่อชีวิตสองแม่ลูกไปวันๆ แต่มันก็คือช่วงเวลาที่พริมได้ใช้ชีวิตกับแม่อย่างมีความสุขเหลือเกิน กระทั่งแม่ของเธอจากไป
พริมจึงต้องย้ายสัมโนครัวไปอยู่กับ “ลุงฟัก” (จาตุรงค์ โพธาราม) และ “ป้ารำไพ” (เจเน็ต เขียว) ญาติแท้ๆ
ไกลถึงจังหวัดภูเก็ต และวันเวลาล่วงเลยจนพริมพริมกลับเข้ามาเรียนต่อในระดับมหาวิทยาลัยที่กรุงเทพฯ อีกครั้ง เธอเลือกที่จะเป็นสาวม.ราม เพื่อที่จะได้มีเวลาว่างหางานทำไปพร้อมกัน โดยไม่เกี่ยงงานขอให้เป็นงานที่สุจริตและเกี่ยวกับรองเท้า เธอเหมาหมดไม่มีบ่ายเบี่ยง พริมเก็บหอมรอมริบเงินส่วนหนึ่งจากน้ำพักน้ำแรงไว้สำหรับลงเรียนคอร์สออกแบบดีไซน์ เพื่อทำตามความฝันของเธอให้กลายเป็นจริง
ชีวิตตอนนี้ของเธอดูท่าว่ากำลังจะไปได้สวยกับการเป็นพนักงานขายรองเท้าในห้างหรู ถ้าไม่เกิดการทะเลาะตบตีกับเพื่อนร่วมงานตัวแสบเข้าเสียก่อน เป็นเหตุให้พวกของเธอถูกไล่ออกยกแก๊งจากคำสั่งของ “พัชรา” (สรวงสุดา ลาวัณย์ประเสริฐ) ผู้เป็นทั้งเจ้าของห้างและภรรรยาของ “บารมี” (ทรงสิทธิ์ รุ่งนพคุณศรี) ซึ่งพริมรับรู้ตังแต่แรกว่าพัชราไม่ชอบหน้าเธอ ในขณะที่ตัวของพัชราเองก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทำไมตัวเองถึงชังหน้าพริมนัก
ความวุ่นวายชวนปวดหัวยังไม่หมดแต่เพียงเท่านี้ เมื่อจู่ๆ ก็มีสายด่วนจากลุงฟักตามตัวเธอกลับไปภูเก็ตเป็นการด่วน และการกลับมาในครั้งนี้ทำให้เธอจับพลัดจับผลูมาดูแลคฤหาสน์ใหญ่โตโอ่อ่าของ “คุณปรีชา” (อนันต์ บุนนาค) เศรษฐีอารมณ์ดีผู้หลงใหลในการเดินทางท่องเที่ยวทั่วโลก ซึ่งเหตุการณ์การอาสาดูแลคฤหาสน์หลังโตแทนลุงกับป้าของพริมและผองเพื่อนคงจะราบรื่นเป็นอย่างดี ถ้าหากว่าไม่บังเอิญมาป๊ะหน้ากันกับ “ภูรี” (ธีรเดช เมธาวธายุทธ) ลูกชายตัวจริงเสียงจริงของคุณปรีชาเข้าเสียก่อน ซ้ำยังบอกว่าตัวเองเป็นหลานสาวของคุณปรีชาอีกเสียด้วย โดยที่แก๊งสามสาวไม่รู้เลยว่าคนที่เป็นทายาทเจ้าของคฤหาสน์นั้นยืนอยู่ตรงหน้านี่แหละจ้ะ
เธอจ๋า
ภูรีจึงคิดที่จะจับโป๊ะคนโกหก เขาต้องรู้ให้ได้ว่าแก๊งสามสาวนั้นเป็นใครกันแน่ จึงวางแผนหลอกว่าตัวเองและเพื่อนกำลังโดนกลุ่มมาฟียในท้องถิ่นไล่ล่าอยู่ และตอนนี้ก็ยังหาที่สำหรับหลบซ่อนไม่ได้ จึงอยากขอไปหลบพักที่บ้านของสาวๆก่อนสักระยะหนึ่ง คราแรกพริมก็ยังเกิดความลังเลแต่คิดไปคิดมาเธอเองก็หวังที่จะได้รับความช่วยเหลือจากเพื่อนของภูรีในเรื่องของการสร้างแบรนด์รองเท้าของเธอให้สำเร็จ จึงตกปากรับคำให้หนุ่มๆไปอยู่ที่คฤหาสน์หรูด้วยกัน และแล้วความชุลมุนอันหนักหน่วงชวนปวดจิตของการมาอยู่ร่วมชายคาของแก๊งหลานสาวตัวปลอมกับทายาทตัวจริงก็ได้ฤกษ์เริ่มต้นขึ้นอย่างเป็นทางการ
งานนี้ฝ่ายไหนจะเพี้ยงพล้ำโดนจับไต๋ได้ก่อนกัน ไหนจะเรื่องความฝันเรื่องรองเท้าที่ยังมืดแปดด้านอีก ซ้ำเรื่องความรักก็ดูท่าจะงงๆสับสนยุ่งเหยิง แล้วชีวิตของนางซิน 2018 คนนี้จะลงเอยอย่างไรล่ะทีนี้ ทั้งหัวใจและความฝัน จะนำพาเธอไปสู่จุดหมายที่หวังไว้ได้สำเร็จหรือไม่ ติดตามเรื่องราวสุดพีคของนางซินผู้น่าสงสารที่สุดในพ.ศ.นี้ได้ใน “เสน่ห์รักนางซิน”
by TVPOOL ONLINE










