เกาะติดข่าวดาราก่อนใคร

กดติดตาม “ทีวีพูล”

banner

หลังจากป่วยจนต้องส่งรักษาตัวห้อง ICU สำหรับ “แอน มิตรชัย” โดยในงานนิทรรศการพลังสังคมหยุดคุกคามทางเพศ ทาง แอน ได้อัพเดทอาการป่วยของคุณแม่ รวมถึงงานที่อินเดียด้วย

ถามถึงอาการป่วยของคุณแม่?

“จริงๆ แล้วคุณแม่ทานยาตลอดและอยู่ในการดูแลของแพทย์ แต่บังเอิญว่าคุณแม่ไปฟังเพื่อนว่าอย่าไปทานยาเยอะ เพราะว่าตัวเองกำลังฟอกไตอยู่ เลยกลัวว่าจะเป็นอะไรที่ต้องไปฟอกไตอีก จากนั้นก็เลยทำตัวเป็นคุณหมอเองสั่งหยุดยาเองเรียบร้อย พอดีกับที่ว่าวันนั้นคุณแม่ได้รับอุบัติเหตุจนขาบวม แต่ด้วยความที่เป็นเบาหวานด้วยเลยไม่รู้ว่าตัวเองขาชา วันนั้นพี่เอเลยพาคุณแม่ไปหาหมอแต่ว่าก็จะไม่ยอมดามขาอีกจะกลับบ้านอย่างเดียว แต่ว่าก็ได้วัดความดันปรากฏว่าขึ้นไปเกือบถึง 300 ถือว่าอาการน่าเป็นห่วงมาก เพราะถ้าวันนั้นพี่เอไม่ดื้อที่จะอยู่ด้วย คุณแม่ก็จะกลับบ้านแล้ว”

“ซึ่งถ้ากลับบ้านในวันนั้นคุณแม่อาจจะเป็นอัมพาตหรือเส้นเลือดในสมองแตกได้ ด้วยความที่เป็นโรคของกรรมพันธุ์และน้องของคุณแม่ก็เป็นซึ่งขนาดว่าเขาความดันแค่ 200 กว่าก็เป็นอัมพฤกษ์อัมพาตกันแล้ว เลยโชคดีว่าพาเข้าไปหาคุณหมอและได้มีการตรวจ แต่ไม่ว่าจะให้ยากี่ตัวความดันก็ไม่ลด เลยมีความจำเป็นที่จะต้องให้ยาชนิดแรงและต้องอยู่ใกล้ชิดกับคุณหมอ เลยต้องเข้าไอซียู ซึ่งพอความดันลงก็เลยให้ย้ายออกมาอยู่ห้องพิเศษ แต่ว่ายังไม่ให้กลับบ้าน เท่ากับว่าคุณแม่แอดมิตอยู่สองวันถึงกลับได้ค่ะ”

ผลัดกันดูแลคุณแม่ยังไง?

“ตอนนี้พี่เอ แอน และน้องมิตร จะสลับเวรกันมาดูแล แอนก็จะมีเครื่องวัดความดันไว้คอยตรวจ คอยสระผมให้ เรียกว่าดูแลอย่างใกล้ชิดเลย แล้วเดี๋ยวก็จะพาไปเข้าคอร์สบำบัดต่างๆ คือพวกเราคิดว่าต่อให้งานจะยุ่งขนาดไหนยังไงก็จะต้องสละเวลามายืนอยู่ในจุดเดียวกัน เมื่อไหร่ที่พ่อหรือแม่เป็นอะไร เพราะพวกเรารู้สึกว่าเป็นช่วงบั้นปลายของชีวิตที่จะต้องดูแลเขามากกว่าที่จะต้องทำงาน เลยค่อนข้างกังวลเพราะว่าจริงๆ แอนเองจะต้องไปอินเดียแล้วด้วย แต่ก็มีการแจ้งกับทางผู้จัดการส่วนตัวไปว่าเกิดกรณีนี้เลยขออยู่ดูคุณแม่ก่อน”

คุณแม่มีโรคประจำตัวเยอะไหม?

“แค่ความดันกับเบาหวานรวมกันมันก็พิเศษสุดสุดแล้วสำหรับโรคภัยไข้เจ็บ (ยิ้ม) อย่าให้มันรวมตัวกันได้เชียวนะ แต่โชคดีที่ตอนนี้คุณแม่น้ำหนักลงมาเรื่อยๆ ควบคุมน้ำหนักได้ดีก็เลยทำให้ไม่มีผลกระทบต่อข้อเข่าด้วย สิ่งที่คุณหมอกระชับเป็นพิเศษตอนนี้คือเรื่องของการรับประทานอาหาร เพราะว่าด้วยความที่เป็นพันธุกรรม อย่างแอนเองก็มีความเสี่ยงที่จะเป็นเหมือนกัน ช่วงนี้ก็เลยจะดูอาหารคลีนมาให้ น้ำตาลอย่างไร ทานน้ำมันอย่างไรประมาณนี้ค่ะ คุณแม่ก็จะแอบบ่นว่ามันไม่อร่อยบ้าง (ยิ้ม)”

ตอนนี้ถือว่าอาการดีขึ้นแล้วใช่ไหม?

“ดีขึ้นด้วยใจค่ะ คุณแม่จะเป็นอะไรที่ติดลูก อย่างล่าสุดก็บอกว่าให้คุณแม่พยายามรักษาขาให้หายนะไม่อย่างนั้นจะไปต่างประเทศกับแอนไม่ได้ ซึ่งตอนนี้คุณแม่ก็พยายามรีบหายเลยนะเพราะว่าอยากจะไปกับลูก พูดกันจริงๆ ก็ถือว่าแล้วคุณแม่หายเร็วมากค่ะ”

กระทบกับงานของเราบ้างไหม?

“มันมีงานในส่วนที่แอนต้องเลื่อนไปเท่านั้นเอง ไม่ได้มีการแคนเซิลอะไร งานที่อินเดียก็กำลังจะมีอีกเร็วๆ นี้ค่ะ ล่าสุดก็เพิ่งมีโอกาสไปเจอท่านเอกอัครราชทูตของอินเดีย ถือเป็นงานที่มีเกียรติมากๆ ซึ่งท่านเป็นคนที่รีเควสต์และเชิญแอนเข้าไปในสถานทูต รู้สึกดีใจมากๆ เพราะถือว่าเป็นตัวแทนคนไทยที่เป็นตัวแทนจากทั่วทุกมุมโลกมารวมกันเพื่อที่จะทำงานครบรอบ 150 ปีของมหาตมา คานธี  อันนี้ที่อินเดียเขาถือเป็นเรื่องสำคัญมาก รวมถึงคนอินเดียทั่วโลกด้วย ดังนั้นในการทำโปรเจ็กต์ตรงนี้เป็นสิ่งที่แอนตั้งใจมากๆ”

“โดยจะมีการร้องเพลงและถ่ายมิวสิควิดีโอ จากนั้นจะมีการโปรโมทไปทั่วโลกกับตัวแทนประเทศอื่นๆ ด้วย แต่ว่าอันนี้เป็นเรื่องยากลำบากเหมือนกันเพราะว่าตอนที่ท่านเรียกเข้าไปท่านบอกว่าจะต้องร้องเป็นภาษาคุชราตซึ่งเป็นภาษาที่ยากไปกว่าฮินดูอีก เพราะว่าเป็นภาษาเก่าแก่ของบ้านเกิดของท่านมหาตมา คานธี  ตัวแทนจากทุกประเทศก็จะต้องมาร้องภาษานี้ ซึ่งจะเป็นการร้องเพลงอินเดียแบบสมัยเก่าอยู่และจะต้องใช้เวลาฝึกฝนพอสมควร เดือนหน้าก็จะเริ่มซ้อม ฝึกภาษา และถ่ายทำเอ็มวี หลังจากนั้นช่วงวันที่ 2 ตุลาคมก็จะเผยแพร่ออกไปทั่วโลกค่ะ”