“ชาย ชาตโยดม” นักแสดงเจ้าบทบาท ควงภรรยาคนสวย “วิกกี้ สุนิสา” และลูกชายทั้งสองคน น้องคริสเท่น – น้องไทเลอร์มาเปิดวีรกรรมความแสบขั้นสุด ชายเคลียร์ทำงานหนักมากจนไม่มีเวลาเลี้ยงลูก จนต้องปล่อยโฮ ลั่นปิดอู่ถาวรทำหมันเรียบร้อยแล้ว ผ่านทางรายการ คุยแซ่บshow ช่องOne31

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ฉันนี่ร้องกรี๊ดเลย! “แอฟ ทักษอร” รีวิวรสชาติ “นน” (มีคลิป)

แรงมากคุณน้า! “ทนายธรรมราช” โดนชายปริศนา ทำร้ายจนร่วงกลางวงสัมภาษณ์

ครั้งแรกเลยที่มาพร้อมกัน 4 คน น้องอายุเท่าไหร่?

คริสเท่น : 8 ขวบครับ

ไทเลอร์ : 3 ขวบครับ

วิกกี้ : เดือนหน้า 4 ขวบ คนเล็กแสบค่ะ คนโตไม่ถึงกับเรียบร้อย แต่เรียบร้อยกว่าน้อง

ชาย : เรียบร้อยเวลาอยู่ต่อหน้าผู้คน แต่เวลาอยู่บ้านนี่ซนยับเลย

สองคนนิสัยยังไง?

ชาย : คริสเท่นจะเป็นเด็กค่อนข้างเรียบร้อย โดยพื้นฐานเป็นคนเรียบร้อย พอเจอคนข้างนอก ทุกคนก็จะบอกว่าคีฟคูล แต่เขาก็มีอารมณ์ซน โวยวาย ปกติ แต่โดยธรรมชาติ เขาเป็นคนแอ็กทีฟชอบเล่นกีฬา ฟุตบอล ชอบมีกิจกรรมตลอดเวลา

วิกกี้ : ส่วนคนเล็กแสบมากค่ะ เป็นคนที่คิดก่อนพูด วางแผน บางทีพูดในสิ่งที่เราอยากได้ยิน อยู่เป็น แต่บางทีก็เริ่มกลัวนิดนึง เพราะเขาไม่ได้พูดในสิ่งที่เกิดขึ้นจริง เช่นไปโรงเรียนเราอยากรู้ว่าเขาทำอะไรบ้าง ทานข้าวมั้ย ทานนมมั้ย ครูตอบอย่างนึง ลูกตอบอย่างนึง ซึ่งความจริงอยู่ที่คุณครู (หัวเราะ) เขาฉลาดมากๆ เหมือนเขาพลีสคนเก่ง แต่เหมือนเขาทำเมื่อจำเป็น กี้รู้สึกได้ เราก็เลยกลัวนิดนึงว่าทำไมเขาถึงคิดอะไรที่ซับซ้อนกว่าเด็กทั่วไป

เหมือนใคร?

ชาย : ครินเท่นหน้าเหมือนแม่ นิสัยเหมือนพ่อ แต่ถ้าไทเลอร์จะหน้าเหมือนพ่อ แต่นิสัยเหมือนแม่

วิกกี้ : จริงค่ะ พี่ชายไม่ใช่คนเจ้าเล่ห์ ตอนเด็กเราเป็นคนไม่ง่าย ซึ่งเขาก็ไม่ง่าย เป็นเด็กชอบเถียงผู้ใหญ่ ซึ่งไม่ดีนะ เป็นเด็กซน สามารถเล่นคนเดียวได้ มีความเป็นตัวเองสูง จะเอาแต่ใจนิดนึง

เอาแต่ใจมั้ย?

วิกกี้ : มากค่ะ ยอมรับ

เวลาน้องแกล้ง คริสเท่นทำยังไง?

คริสเท่น : บอกพ่อกับแม่

วิกกี้ : เป็นเด็กขี้ฟ้องมาก (หัวเราะ)

ไทเลอร์ : ไทเลอร์ก็ฟ้องแม่เหมือนกัน

ชอบแกล้งอะไรพี่?

ไทเลอร์ : ชอบตี

วิกกี้ : คนเล็กเล่นแรง ส่วนคนโตด้วยความเราสอนว่าไม่ให้ทำอะไรน้อง เขาก็ไม่กล้าทำอะไร เขาจะละมุนมาก

คนไหนชอบตดใส่แม่?

ไทเลอร์ : (ชี้ที่ตัวเอง)

ชาย : แล้วภูมิใจในผลงานตัวเองมากด้วยนะ (หัวเราะ)

วิกกี้ : ทุกสถานการณ์ เขามองว่าเป็นสิ่งที่ทำตรงไหนก็ได้ อยู่ต่อหน้าเพื่อนๆ ญาติๆ เขาก็ฟรีด้อม

ชาย : แล้วเขาภูมิใจในกลิ่นตัวเองมากเลยนะ ถ้าวันไหนตดแล้วคนไม่รีแอ็ก เขาจะบอกว่าไทเลอร์ตดนะ

วิกกี้ : จะพูดให้คนรู้

ชาย : ถ้าบอกว่าไทเลอร์เหม็นมาก เขาจะแฮปปี้ ช่วงที่เขาตดเราไม่สนใจก็มี

วิกกี้ : เขาจะบอกให้เรารู้ แล้วทำใหม่จนกว่าเราจะมีรีแอ็กชั่นเขาจะเป็นคนแบบนี้

ไทเลอร์ตดเหม็นมั้ย?

ไทเลอร์ : ก็เหม็นอยู่

วิกกี้ : เขาภูมิใจเรื่องนี้

ใครตดเหม็นที่สุดในบ้าน?

คริสเท่น : สองคน (น้องกับพ่อ)

วิกกี้ : สองคนนี้กลิ่นคล้ายกัน (หัวเราะ)

ไม่ค่อยเห็นมุมทะเลาะกัน ปกติเขาตีกันมั้ย?

วิกกี้ : เยอะ เป็นเหมือนกันทุกบ้าน บางทีกี้จะคุยกับเขาก่อนว่าวันนี้เจอคนเยอะ วันนี้กึ่งงาน มีการคุยกันให้เข้าใจก่อนว่าเราจะไปทำอะไรบ้าง เจอใครบ้าง จริงๆ ตีกันเหมือนทุกบ้าน ตีกันเป็นเรื่องปกติ แย่งทีวี ดูอะไรก่อน ใครอาบน้ำเสร็จก่อน ใครอาบก่อน ใครอาบหลัง แย่งลูกบอล

แม่จัดการยังไง?

วิกกี้ : บางทีก็จะดูก่อน แต่บางทีก็จะมีความเผลอบ้าง ด้วยความที่คริสเท่นเป็นคนโต บางทีน้องร้องเราก็จะถามว่าเขาทำอะไร แต่จริงๆ คนเล็กจะเป็นคนเริ่มก่อนซะส่วนใหญ่ พอเขาโดนดุปุ๊บจะร้องไห้ไม่หยุด แตะไม่ได้เลย ก็ให้เขาร้องไป ห้ามใครคุยด้วย ห้ามพี่คุยด้วย ห้ามพ่อเล่นด้วย ให้เขาร้องไปให้จบ กี้จะบอกว่าร้องเสร็จเมื่อไหร่ก็ให้มาคุยกับแม่ เขาก็งัดกับแม่นะ บางทีเคยจับเวลา 20 นาที 40 นาที แต่หลังๆ เริ่มสั้นลงเพราะเขารู้แล้วว่าเขาจะทำแบบนี้ไม่ได้ เราจะให้เขารู้ทันทีว่าทำไม่ได้

ใจพ่อเป็นไง?

ชาย : จะแย่อยู่แล้ว ตั้งแต่ 5 นาทีแล้ว

กล้าดุคนโตมากกว่าคนเล็ก?

ชาย : เพราะเราเชื่อมกันได้ดี แต่พอไทเลอร์ ช่วงที่เขาโต เป็นช่วงที่ชายออกไปทำงานเยอะ ไม่ได้อยู่บ้านเลย พอกลับมาบ้านก็อยากเล่นกับลูกอยากให้เขารู้สึกดีกับเรา พอดุปุ๊บกลัวลูกไม่รัก เคยดุแล้วชายใจเสียไปหมดเลย กลัวเขาไม่รักพ่อ

หลักๆ ไทเลอร์แม่จัดการ?

ชาย : ตัวติดกัน เขาเชื่อมโยงเป็นสายใย

วิกกี้ : บางทีคิดว่าลูกอยากกลับเข้าไป เพราะติดกันมาก (หัวเราะ)

บ้านนี้ไม่ค่อยเห็นดุลูก ใครดุลูกมากกว่ากัน?

วิกกี้ : ไม่ต้องคิดเลย เราอยู่กับลูกเยอะมาก บ่นก็บ่น ถ้าบ่นแล้วบางเรื่องเขาไม่เก็ตก็จะเพิ่มเลเวล

แม่ดุมั้ย?

คริสเท่น : พ่อดุกว่า

ชาย : กับคนโตจะกล้า อยากสอนให้เขาเป็นคนดี น่ารัก ไปเจอใครแล้วคนเอ็นดู ไม่อยากให้เขาเป็นเด็กไม่น่ารัก ก็เลยกล้าดุเขา กล้าสั่งสอน

ไทเลอร์ ใครดุกว่ากัน?

ไทเลอร์ : พ่อกับแม่

วิกกี้ : อยู่เป็น

เวลาพ่อแม่ดุ กลัวใครมากกว่ากัน?

คริสเท่น : กลัวพ่อ

วิกกี้ : เขาดุหนักกว่า คุยหนักแน่นมาก

ตีมั้ย?

วิกกี้ : ตีค่ะ กับไทเลอร์ตี แต่ไม่เวิร์ก ต้องใช้จิตวิทยา เป็นวิธีบ้านเราไม่ได้จะแนะนำนำ เราเป็นเด็กที่โดนแม่ตี ถ้าบางอย่างเด็กไม่เข้าใจคำพูด เราก็จะให้เขารู้ว่าไม่ได้นะ คนนี้ใช้อย่างนี้ไม่เวิร์ก ก็ใช้จิตวิทยาเอา ต้องพูด และมีส่วนร่วม ให้รู้ว่าเขาทำผิดนะ ต้องโดนทำโทษ เขาจะร้องหนักเลย

ชาย : ร้องหนักหน่วงมาก บ้านจะแตก เป็นเรื่องเป็นราวใหญ่โต ตีเล็กตีน้อยไม่ต่างกัน ร้องเท่ากัน

พี่ชายตีลูกมั้ย?

ชาย : เมื่อก่อนตีบ้าง แต่เดี๋ยวนี้สอนแล้วเขารู้เรื่องก็ไม่ต้องตีแล้ว อย่างครินเท่น เราพูดอะไรเขาก็เข้าใจ ยอมรับและทำตาม อย่างที่บอกเขาน่ารัก แต่คนเล็กจะยากสุด คุยไม่รู้เรื่อง

วิกกี้ : ไม่สนใจ ไม่ฟัง เหมือนต้องเปลี่ยนทุกวัน

มีดุลูกผิดคน?

วิกกี้ : บางทีเขาจะมีเล่นกันแรงๆ เรื่อยๆ เราหันหลังก็รู้แล้วว่าต้องมีจังหวะใครร้องไห้ พอหันมา เราคิดว่าคนโตน่าจะแรงกว่าก็หันไปดุเขาทันที แต่เห็นหน้าเขา เขาร้องไห้ บอกว่าแม่ยังไม่ฟังเขาอธิบายเลย แม่ไม่ได้หันมาดู แล้วจะรู้ได้ไง เราก็โอเค ต้องลงมากอด และจัดการคนนี้ ก็ขอโทษค่ะ ถ้ารู้สึกแย่ก็ต้องให้เขารู้ว่าทำไม่ได้นะ

คุยกับไทเลอร์แทนดุ?

ชาย : ประคับประคองมากเลย ช่วงคริสเท่นเกิดสองปีแรก แทบไม่ได้ทำงานเลย อยู่ตัวติดกันตลอด เหมือนรู้ใจ ผูกกันติด เจอหน้าจูนกันได้ พร้อมตลอด รู้ว่าเราต้องเข้าหาเขายังไง ดุได้แค่ไหน ไปได้เต็มที่ แต่พอช่วงไทเลอร์เกิด ชายเริ่มออกไปทำงานหนักแล้ว พยายามให้สิ่งที่ดีที่สุดกับลูก ภาระก็รออยู่ด้านหน้าแล้ว เรายังไม่ได้พร้อมขนาดนอนอยู่บ้านเลี้ยงลูก รักกัน มันต้องหา เลยรับหมดทุกอย่าง มีอะไรเข้ามาก็รับหมดทุกอย่าง เลยกลายเป็นช่วงที่ไม่ได้อยู่กับเขา เขาอยู่กับแม่ตลอด กลับมาก็อยากหอมอยากกอด แค่เขาไม่ให้กอด ไม่ได้หอม ชายก็เสียใจมาก ความรู้สึกมันกลัวลูกไม่รักอยู่แล้ว กลัวลูกไม่ผูกพัน ชายพยายามเอาใจเขาทุกอย่าง ขนาดเขาทำผิด หรือควรดุ ชายก็ไม่ดุ (หัวเราะ)

วิกกี้ : บางทีก็รอดูว่าจะทำอะไรนะ เราไม่ได้อยากเป็นเหมือนคนดุอย่างเดียวตลอดเวลา พี่ชายก็บอกความจริงว่าไม่ค่อยมีเวลากับไทเลอร์ อยากให้ช่วงเวลาที่อยู่ด้วยกันแฮปปี้ที่สุด ก็ไม่เป็นไร เดี๋ยวฟาดเอง (หัวเราะ)

น้อยใจลูกช่วงไหน?

ชาย : เรื่องไม่เป็นเรื่อง ด้วยความที่เซนซิทีฟอยู่แล้วเรื่องลูก เวลากลับบ้านมา อยากให้ลูกคิดถึง อยากให้ลูกวิ่งเข้าหอม คริสเท่นเขาจะทำตลอดจะกอดจะหอม แต่พอขอกอดขอหอมไทเลอร์เขาจะทำเป็นไม่สนใจ ไม่ให้ แค่นั้นแหล โห มันเสียใจจริงๆ

ธัญญ่า : รอ 13 ตอนแยกห้องแล้วไม่ให้หอมแล้ว ทำใจไว้เลยนะเตรียมน้ำตาไว้เลย (หัวเราะ)

รับละคร 8 เรื่องพร้อมกัน?

ชาย : ถ่ายพร้อมกัน 8 เรื่อง เวลาโทรเข้ามาว่างมั้ย ได้ครับ มาเรื่อยๆ ก็บอกว่าได้ครับ เดี๋ยวเคลียร์ได้ (หัวเราะ) เราก็หาคนมาช่วยเรื่องการดูคิวให้ จะได้ไม่กระทบงานของใคร

มีละครเวทีอีก มีซีรีส์เน็ตฟลิกซ์อีก ทำงานก็จะแบ่งเวลาไม่ได้แล้ว ที่บ้านพี่ชายคาดหวัง และรักที่สุด จะแบ่งจากงานมาหาลูกยังไง?

ชาย : ตอนรับก็รับแบบบ้าคลั่งไป เนี่ยแหละเราจะทำให้ลูก เราทำงานมีแรงไหว ทำตอนนี้ก็รีบรับไปก่อน แต่พอผ่านไปสักระยะนึง อยู่เป็นหลักเดือน หลักปีสองปีที่วนอยู่อย่างนี้ เช้าตื่นตีห้าลูกยังไม่ตื่น กลับมาห้าทุ่มเที่ยงคืน ลูกหลับไปแล้ว มันไม่เจอ มันก็ค่อยๆ บั่นทอนความรู้สึกชายไปเรื่อยๆ มันค่อยๆ สะสม จนวันนึงมันไม่ไหวแล้ว เล่นละครก็เล่นไม่ได้แล้ว มีผลกับงานหนักมาก ฉากง่ายๆ ก็ทำไม่ได้ ใจไม่อยู่แล้ว ใจไม่พร้อมแล้ว ได้เท่าที่ได้จริงๆ เหมือนขอพักแป๊บนึง เขาบอกโอเค ถ้ามีเวลาค่อยกลับมาถ่ายใหม่ฉากนี้ ชายรู้ว่าชายพีคสุดๆ แล้วไม่ไหวแล้ว ตอนนั้นอยู่กองพี่จ๋า เขาคงรู้กันอยู่แล้วว่าไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นในชีวิตชาย คนเยียวยาและมีผลกับชายมากที่สุดคืออาจิ๋ม อยู่ดีๆ อาจิ๋มก็เดินเข้ามาในกอง แค่เห็นอาจิ๋มเดินเข้ามา ชายก็ถล่มทลายเละเทะ ไปกอดทิ้งตัวหมดทุกอย่าง

วิกกี้ให้กำลังใจยังไง?

วิกกี้ : ก็เข้าใจเขา พยายามคุยกับลูกด้วย เพราะเขาบอกว่าเขากลัวลูกจะไม่เข้าใจว่าทำไมหายตลอด มีบางครั้งที่คริสเท่นก็ถามว่าทำไมพ่อไปอีกแล้ว เราไม่แน่ใจว่าเขาเข้าใจมากน้อยแค่ไหน แต่เราบอกไปก่อนว่าพ่อทำทุกอย่างเพื่อเรานะ พ่อไม่ได้อยากออกไปตลอด แต่พ่อทำเพื่อให้เราสบาย คริสเท่นได้ไปโรงเรียน ได้ของที่อยากได้ ได้ทานสิ่งที่อยากได้ อธิบายเหมือนผู้ใหญ่ ทุกอย่างต้องใช้เงิน พ่อก็ดูแลเรา พอได้ไปทำอะไรที่เราชอบ มันมาจากการที่พ่อดูแลเรา พูดบ่อยๆ ก่อนนอนก็เล่าให้เขาฟัง เพราะบางทีเขารู้สึกว่าทำไมโทรไปแล้วพ่อไม่รับ เราก็บอกว่าพ่อทำงานแบบนี้ เวลาเข้าฉากพ่อเอาโทรศัพท์ไปไม่ได้นะ อธิบายให้เขาเห็นภาพกองถ่าย เขาเคยไปกองถ่าย แต่อาจไม่รู้วิธีการทำงานว่าทำไมพ่อรับโทรศัพท์ไม่ได้

คริสเท่นไม่เห็นหน้าพ่อตอนอยู่ที่บ้านเป็นยังไง?

คริสเท่น : คิดถึงครับ พ่อกลับบ้านก็นอนกับพ่อ

คุณพ่ออยากได้กำลังใจจากลูกๆ กอดพ่อได้มั้ย?

คริสเท่น-ไทเลอร์ : (กอดและจุ๊บแก้มพ่อชาย)

วิกกี้ : น่ารักที่สุด

กว่าจะผ่านตรงนั้นมาได้ ไม่ง่ายสำหรับพี่ชาย มีอยู่ครั้งนึงครอบครัวของเรามารวมกันหมด แล้วพี่ชายคนโตมาจากต่างประเทศ พี่ชายเป็นคนเดียวที่ไม่ได้มา พี่ชายแซ่ดสุดๆ?

วิกกี้ : พี่เอก พี่ชายคนโต นานๆ กลับมาจากอเมริกา เราก็แพลนไปเที่ยวทะเล เขาโทรมาแล้วทุกคนอยู่หมด มันคือครอบครัวพี่ชาย มีแต่เขาคนเดียวที่ไม่อยู่ตรงนั้น สงสารมาก

นอกจากไม่มีเวลาให้ลูก ยังไม่มีเวลาให้ตัวเอง?

ชาย : พีคสุดน้ำหนักน่าจะขึ้นไป 110 กิโล มันอายนะ คนถามว่าจริงเหรอ ไม่เคยเห็นชายอ้วน ชายอายนะ ไม่กล้าให้คนเห็นแบบนี้ ทุกครั้งที่ออกไปทำงานข้างนอก พยายามพรางตัวเอง แต่มันไม่ใช่แค่เรื่องรูปลักษณ์ มันเป็นเรื่องสุขภาพ นอนกินแล้วลูกวิ่งมาชวนเล่นด้วยกัน แต่เราไม่ไหว ง่วง ขอนอนก่อน พอพูดเสร็จออกจากปากไปทันที เห็นหน้าลูก เห็นความผิดหวังของเขา เราทำอะไรกับชีวิตอยู่ ความตั้งใจเราอยากมีครอบครัว อยากมีลูก เป็นสิ่งที่ฝันมาตลอด อยากเล่นกับลูก สร้างความทรงจำกับลูกว่าได้เล่นกับพ่อ สนิทกับพ่อ แล้วเราทำอะไร เรามานอนอยู่อย่างนี้ มันแย่มาก สุขภาพก็แย่

วิกกี้ : พาไปตรวจสุขภาพ ผลมันไม่โกหกนะ

ชาย : มันไม่ได้แล้ว ต้องเปลี่ยนแปลงตัวเอง ไม่ควรเป็นช่วงชีวิตที่รอร่วงโรย เราควรได้เอ็นจอยกับดอกผลที่เราทำงานมาสิ พอเราดูแลตัวเองก็เดินถอดเสื้อตลอด (หัวเราะ)

วิกกี้ : ใช่ เอะอะแก้ผ้าตลอด (หัวเราะ)

ชาย : เราตัดสินใจว่าเราจะเป็นคนมีคุณภาพ เป็นพ่อที่แข็งแรง ดูแลลูกได้

จะมีลูกเพิ่มมั้ย?

ชาย : ไม่เหลือแล้วครับ (หัวเราะ) ทำหมันไปแล้ว เรียบร้อย

ตัดสินใจนานมั้ย?

ชาย : ก็ใช้เวลาสักพักนึงเหมือนกัน

วิกกี้ : เขาตัดสินใจเอง แต่เราค่อยๆ หาข้อมูลใส่ไป

ชาย : เรื่องของเรื่องไม่รู้ตัวว่าโดนป้อนข้อมูลอยู่ แต่ก็คิดเองว่าทำเองแล้วกัน เป็นของขวัญให้เขา

วิกกี้ : เป็นของขวัญแอนิเวอร์ซารี่ ครบรอบแต่งงาน

ชาย : ทั้งหมดทั้งมวลเป็นการป้อนข้อมูล จนเราคล้อยตามเคลิ้ม โอเคไปทำแล้วกัน เหมือนละเมอไป (หัวเราะ)

อยากมีอีกมั้ย?

ชาย : เมื่อก่อนตั้งเป้าอยากมีลูก 4 คน แต่ด้วยความที่อายุเยอะด้วยตอนมีคริสเท่นก็อายุ 40 แล้ว มานั่งคิดดู โหย อีกไกลมากเลย เราอยากอยู่กับเขาให้เต็มที่ก็พอก่อนดีกว่า เลยเอาแค่ 2 พอ

by TVPOOL ONLINE

“ชาย” ควง “วิกกี้” เปิดวีรกรรมแสบ “คริสเท่น-ไทเลอร์” พร้อมเผยเรื่องเสียใจ บั่นทอนจนเล่นละครไม่ได้!

ย้อนรอย…ความประทับใจ-คู่รักรู้ความจริง…ชายนิรนามที่ “ซื้อแหวนแต่งงาน” ให้พวกเขาคือ “พอล วอล์คเกอร์”!!!!