กระแสไวรัลในโลกออนไลน์ของประเทศอินโดนีเซียกำลังสนั่นสะเทือน กับเรื่องราวสุดฉาวของนักบินรายหนึ่ง

แอบเป็นกิ๊กกับแอร์โฮสเตสสาวสายการบินชื่อดัง ซ้ำพากันไประเริงรักกันในโรงแรม แต่ความลับไม่มีในโลก ฝ่ายภรรยาบุก

ตามเจอคาหนังคาเขาที่โรงแรมแห่งหนึ่งย่านจาลัน รายา ดาร์โมในสุราบายาตามรายงานของสื่อท้องถิ่น นักบินหนุ่มนามริกโก้

อิดเวียนซาห์กำลังอยู่ในความสนใจของชาวเน็ต เหตุมีคลิปหลุดแฉความเจ้าชู้กับอนิสา นาดิลา ปุตรีพนักงานต้อนรับบนเครื่องบิน

จากสายการบินเดียวกัน โดยภรรยาที่ถูกกฎหมายของนักบินและครอบครัวของเธอบุกไปที่ห้องพักในโรงแรม

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ภายในวิดีโอมีการใช้ชายแปลกหน้าเป็นหน้าม้าเคาะประตูห้อง จากนั้นไม่กี่นาที เมื่อประตูก็ถูกเปิดออกโดยหญิงที่ต้องสงสัยว่าเป็นกิ๊ก

ฝ่ายภรรยาก็เข้าไปในห้องดังกล่าวทันที ซึ่งสร้างความตกตะลึงให้กับสามีและกิ๊กเป็นอย่างยิ่ง ฝ่ายนักบินชายสวมเสื้อยืดสีเขียวทำได้เพียง

นั่งเฉย ๆ บนเตียง ในขณะที่ฝ่ายหญิงยืนอยู่หน้าตู้เสื้อผ้าพร้อมพยายามปิดหน้าและไม่กล้าส่งเสียงฝ่ายสามีพยายามเกลี่ยกล่อมภรรยา

โดยอ้างว่าพวกเขาทั้งสองคนไม่ได้ทำอะไรเกินเลยแต่อย่างใด เนื่องจากฝ่ายหญิงมีประจำเดือน ทั้ง ๆ ที่มีเสื้อผ้ากระจัดกระจายอยู่เป็น

หลักฐาน แถมภรรยาก็พบชุดชั้นในของฝ่ายหญิงอีกต่างหาก

การแถลงของสำนักข่าวอินโดนีเซีย ฝ่ายภรรยากล่าวอย่างช้ำใจว่า ลูกคนแรกของเธอป่วย ในขณะที่สามีของเธอกำลังสนุกสนาน

กับการออกเดทกับกิ๊กของเขา ทำให้เธอถึงกับตะโกนให้คลิปวิดีโอไวรัลว่า มาอยู่กับผัวคนอื่นทำไม พร้อมพยายามจะเข้าตบตีสามี

และฝ่ายหญิง แต่ถูกเจ้าหน้าที่พนักงานที่อยู่รอบตัวห้ามเอาไว้

จากนั้นเธอได้แจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ หลังจากนั้น พวกเขาถูกนำตัวไปที่กองบัญชาการตำรวจสุราบายา ซึ่งพ.ต.อ.อาหมัด ยูเซป

กุนาวัน ผู้บัญชาการตำรวจเมืองสุราบายา ยืนยันเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นจริงเป็นเหตุทั้งคู่กำลังถูกสอบสวนโดยหน่วยบริการสตรี

และเด็ก (PPA) ของหน่วยสอบสวนคดีอาญา ซึ่งทางหน่วยงานไม่พบหลักฐานการล่วงประเวณี แม้ว่าทั้งคู่จะอยู่ในห้องพักเดียวกันก็ตาม

ทำให้คดีนี้คลี่คลายและภริยาของนักบินจะถอนรายงานเรื่องนี้

ไม่เพียงเท่านั้น ภรรยาของนักบินยังรายงานถึงการนอกใจของสามีและพนักงานต้อนรับบนเครื่องบินต่อผู้บริหารของสายการบิน

ทางด้านสายการบินที่ทั้งคู่ทำงานอยู่ ยืนยันว่า ทางบริษัทจะดำเนินการกับพนักงานที่ละเมิดกฎระเบียบของบริษัท สายการบินแจ้งว่า

การกระทำนี้เป็นความรับผิดชอบของทั้งสองฝ่าย เพราะสายการบินไม่ได้เข้าไปยุ่งเกี่ยวกับเรื่องส่วนตัว